“ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์” ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.แล้ว เพื่อเสนอขายไอพีโอ 50 ล้านหุ้น ลงสนามเทรดเอ็ม เอ ไอ ระดมทุนขยายธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ครบวงจร
นางสาวอนงค์ ยุวะหงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล หรือไฟลิ่ง ของบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 50.00 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท
โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้มีมูลค่าที่ตราไว้ หรือพาร์ที่ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยในปัจจุบัน ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 100.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 75.00 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 150.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ หลังจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ มีแผนที่จะลงทุนในการขยายธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์ครบวงจร เช่น โครงการ Leo Self-Storage & E-Fulfillment Center เพื่อให้เช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า โครงการขยายพื้นที่บริการรับฝากตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ โครงการพัฒนาระบบขนส่งผ่านแดนไปยังประเทศเมียนมา และศึกษาเพื่อร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และกลุ่มประเทศ ASEAN เป็นต้น และเงินจากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 1,062.40 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 31.12 ล้านบาท
“เราได้ยื่นไฟลิ่งให้กับลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่า LEO จะได้รับการตอบรับที่ดีในการเข้าซื้อขายตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จากโอกาสในการเติบโตในอนาคตหลังจากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจในการให้บริการลอจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามความต้องการการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น” นางสาวอนงค์ กล่าว
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการลอจิสติกส์แบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก (End-to-End Global Logistics Services) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งการนำเข้า และส่งออก (International Freight Forwarding) โดยการขนส่งทางทะเล (Sea freight) ทั้งแบบเต็มตู้ (Full Container Load หรือ “FCL”) และแบบไม่เต็มตู้ (Less than Container Load หรือ “LCL”) และทางอากาศ (Air freight) ที่สามารถครอบคลุมได้ทั่วโลก และมีประสบการณ์มานานกว่า 26 ปี นอกจากการเป็นผู้รับจัดการขนส่งระหว่างประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังมีบริการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการบริการขนส่งของบริษัทฯ ให้ครบวงจร เช่น การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร การรับจัดการขนส่งสินค้าทางบกด้วยรถบรรทุก และรถบรรทุกหัวลาก บริการจัดหาประกันภัยสินค้า (Cargo Insurance) บริการบรรจุหีบห่อสินค้า บริการรับจัดเก็บ และกระจายสินค้า การรับขนส่งสินค้าโครงการ และสินค้าขนาดใหญ่ (Project & Heavy Lift Cargoes) และการรับขนส่งสินค้าพิเศษ เป็นต้น
“เราเป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์อย่างครบวงจรทั้งการนำเข้า และส่งออก ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม และล่าสุด ทางบริษัทฯ ยังได้รับรางวัลผู้ประกอบการที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการลอจิสติกส์ ประจำปี 2559 (Excellent Logistics Management Award หรือ “ELMA”) สาขา 3rd Party Logistics Services Provider (3PL) จากสำนักธุรกิจบริการและโลจิสติกส์การค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยบริษัทฯ เน้นย้ำภาพลักษณ์หลังจากการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ที่เป็นมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางในการดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพของบริษัทฯ ให้มีความมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต” นายเกตติวิทย์ กล่าว