จัดเต็ม”โพลาร์”

     บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือชื่อย่อหุ้น ”โพลาร์” กำลังถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เกาะติดความเคลื่อนไหว ล่าสุดกรรมการบริษัทถูกสั่งให้ชี้แจงธุรกรรมต่างๆที่น่าสงสัยเป็นรายบุคคล
     คำสั่งให้กรรมการ “โพลาร์” ชี้แจงมี 4 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การไม่จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ตามที่ผู้ถือหุ้นร้องขอ โดยอ้างว่า หนังสือร้องขอไม่ชอบตามข้อบังคับของบริษัทและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.
     การทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินย่านพหลโยธินที่มีการวางมัดจำไปแล้ว 350 ล้านบาท และยังไม่ได้จ่ายมัดจำเพิ่มเติมอีก 100 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2559
     การวางเงินมัดจำเพื่อทำดีล ดิลิเจ้นซ์ ใน อะ เดย์ วงเงิน 120 ล้านบาท ต่อมายกเลิกลงทุนในอะ เดย์ จะมีผลอย่างไรต่อการได้เงินมัดจำคืน
     และรายละเอียดจำนวนกรรมการของบริษัทที่ยังมีประเด็นอยู่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
     ก.ล.ต.ให้เวลากรรมการฯชี้แจงประเด็นต่างๆใน15 วัน นับจากมีคำสั่งเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา

     หุ้นโพลาร์ อยู่ระหว่างถูกสั่งพักการซื้อขายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 เนื่องจากไม่สามารถส่งงบการเงินปี 2559 ในเวลาที่กำหนด และยังถูกก.ล.ต.สั่งให้ชี้แจงปมที่น่าสงสัยอีกหลายประเด็น ทำให้สถานการณ์หุ้นตัวนี้มีความน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยที่จะต้องแบกรับความเสียหายจากความผิดพลาดของฝ่ายบริหารบริษัทเต็มเปา
     โพลาร์เป็นบริษัทจดทะเบียนที่สร้างประวัติศาสตร์ โดยปี2557 เพิ่มทุนถึง 8 รอบ แต่ยังไม่หนำใจฝ่ายบริหารบริษัทฯ เพราะในปี 2558 เพิ่มทุนอีก 3 รอบ แต่ผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลังขาดทุนตลอด
     การนำเงินที่ระดมจากผู้ถือหุ้นไปซื้อทรัพย์สินมากมายก่ายกอง ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องราคาที่สูงลิบ
     ตามมาด้วยความเสียหายจากการซื้อทรัพย์สิน และอาจรวมถึงการซื้ออะ เดย์ ซึ่งวางมัดจำไว้ 120 ล้านบาท และการซื้อที่ดินย่านพหลโยนธิน ซึ่งวางมัดจำไว้ 350 ล้านบาทเพราะไม่รู้ว่า เงินมัดจำจะถูกยึดหรือไม่

     แม้จะเสียหายจากการซื้อทรัพยสินและการลงทุน แต่ฝ่ายบริหารบริษัท โพลาร์ยังดำเนินธุรกรรมเดิม โดยประกาศเพิ่มทุนถี่ยิบ ซื้อทรัพย์สินเป็นว่าเล่น ไม่ใส่ใจในเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในการดำเนินธุรกรรมที่ถูกตั้งข้อสงสัย จนล่าสุดผู้ถือหุ้นรวมตัวกันเคลื่อนไหวกดดันฝ่ายบริหาร และยื่นหนังสือขอเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น
     ผู้ถือหุ้นรายย่อยโพลาร์มีจำนวนทั้งสิ้น 11,523 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 99.77%ของทุนจดทะเบียน โดยไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่แม้แต่รายเดียว
     ดังนั้น ผู้ถือหุ้นรายย่อย จึงสามารถโหวตปลดกรรมการบริษัทได้ยกชุด ถ้าเห็นว่า กรรมการบริษัทบริหารงานไม่โปร่งใส สร้างความเสียหายให้ผู้ถือหุ้น
     หรือถ้าเกิดปมสงสัยในการบริหารงาน ทำให้บริษัทต้องมีผลขาดทุนต่อเนื่อง โดยเมื่อโหวตเปลี่ยนกรรมการชุดใหม่ แล้ว ก็สามารถขุดคุ้ยการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดปัจจุบันได้
     แต่ภารกิจเฉพาะหน้าของผู้ถือหุ้นรายย่อยคือ จะต้องรวมตัวกันให้ติด ต้องตระหนักในสิทธิประโยชน์ของตัวเอง ต้องร่วมกันเคลื่อนไหวขอให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ดีใน “โพลาร์”

     หลายปีที่ผ่านมา “โพลาร์”ล้มเหลวทั้งภาพลักษณ์ ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการบริหารงาน และผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง เป็นตัวสะท้อนความล้มเหลวของฝ่ายบริหารบริษัท
     ก.ล.ต.เข้ามาทำหน้าที่แทนผู้ถือหุ้นแล้ว โดยสั่งให้กรรมการโพลาร์แต่ละคน ชี้แจงถึงธุรกรรมที่คลุมเครือน่าสงสัยภายใน 15 วัน
     ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยคงไม่ยอมเลิกรากับคณะกรรมการบริษัทฯง่ายๆ โดยอาจอยู่ระหว่างประสานงาน เพื่อรวมตัวเคลื่อนไหว ขอเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
     ฝ่ายบริหารโพลาร์ถูกทั้งก.ล.ต.และผู้ถือหุ้นรายย่อย “ตีขนาบ” งานนี้กรรมการบริษัทฯ เหนื่อยแน่ และเตรียมตัวถูกผู้ถือหุ้นรายย่อยซักฟอกหนัก
     สงสัยกันมานานแล้ว มีใครเล่นกลใน “โพลาร์” หรือไม่ เพราะเพิ่มทุนถี่ยิบ สูบเงินไปไม่รู้เท่าไหร่ แต่ทำไมผลผล-ดำเนินงาน จึง “เจ๊ง”ลูกเดียว