ผู้ถือหุ้นไฟเขียว “โรงพิมพ์ตะวันออก” ปันผล

ผู้ถือหุ้น “โรงพิมพ์ตะวันออก” ไฟเขียวแจกปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 25:1 และเงินสด 0.04 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 4 พ.ค. 60 รับเงิน 24 พ.ค. 60 “ยุทธ ชินสุภัคกุล” เผยพร้อมร่วมชิงเค้กโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์เฟส 2 และหน่วยงานราชการ ที่เตรียมเปิดรับผู้ร่วมโครงการในเดือน พ.ค.นี้ มั่นใจผ่านคุณสมบัติชัวร์-พันธมิตร/สถานที่พร้อม เดินหน้าทันที

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชย) (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 อนุมัติปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 25:1 (หุ้นเดิม:หุ้นปันผล) และเงินสดในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2559 โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 พ.ค. และรับเงินในวันที่ 24 พ.ค. 2560

นอกจากนี้ ยังอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 891.91 ล้านบาท จากเดิม 861.28 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 30.62 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล
 
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศ และพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์เฟส 2 และหน่วยงานราชการ ซึ่งกระทรวงพลังงานจัดสรรโควตา ให้จำนวน 219 เมกะวัตต์
 
“เราพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์เฟส 2 และหน่วยงานราชการอย่างเต็มที่ โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการเตรียมความพร้อมร่วมกับพันธมิตรสหกรณ์ และหน่วยงานราชการ เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในส่วนของการเตรียมคุณสมบัติ เรามั่นใจว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน และคาดว่าจะผ่านเงื่อนไขด้านคุณสมบัติอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีการจับสลาก และได้รับการคัดเลือก เราก็พร้อมเดินหน้าได้ทันที” นายยุทธ กล่าว
 
ปัจจุบัน EPCO ได้ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร ในพื้นที่ของสหกรณ์การเกษตรเมืองปราจีนบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตขนาด 5 เมกะวัตต์ (MW) ที่ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งได้มีการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว มีอายุสัญญา 25 ปี

นายยุทธ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เริ่ม พ.ค. 2560 ค่า Ft จะขึ้น 12.52 สต. หรือประมาณร้อยละ 3.7 และคาดว่าค่า Ft จะเพิ่มขึ้นอีกหลังสิงหาคม 2560 เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของโรงไฟฟ้า 3 แห่งของบริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายกิจการไฟฟ้าไปสู่การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้พลังงานทดแทนเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าที่จะสูงขึ้น โดยได้ติดตั้งเสร็จแล้ว 2.1 เมกะวัตต์ กำลังติดตั้งอยู่อีก 1 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของลูกค้าอีกหลายๆ ราย