สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ของหุ้น บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น “KOOl” โดยราคาหุ้นรูดตลอด 5 วันทำการ ทำให้นักลงทุนร้องกันระงม
เกิดอะไรกับหุ้นตัวนี้ และแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ผู้ถือหุ้นรายย่อยอยากจะรู้
“มาสเตอร์คูลฯ” เป็นผู้ผลิตพัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ราคาหุ้นในรอบ52 สัปดาห์เคลื่อนไหวอย่างหวือหวา โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1.61 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 8.80 บาท
จากจุดต่ำสุด ก่อนจะถูกลากขึ้นไปจุดสูงสุด ราคาสวิงขึ้นประมาณ 400% จึงจัดเป็นหุ้นร้อนแรงตัวหนึ่ง
เพียงแต่นักลงทุนรายย่อย ไม่ได้แห่เข้าไปเก็งกำไรเหมือนหุ้นร้อนตัวอื่น เพราะมีรายชื่อผู้ถือหุ้นรายย่อย2,349 รายเท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 เมษายนหุ้น “ คูล”ลงมายืนที่4.22 บาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลงประมาณ 30%
ก่อนสงกรานต์ หุ้น “คูล”เคยสำแดงอาการไม่ดีมาแล้ว ราคาหุ้นเคยติดลบ 5 วันทำการ เพียงแต่ลงไม่แรงนัก
ปัจจัยพื้นฐานหุ้นตัวนี้ไม่ได้โดดเด่นนัก อัตราเงินปันผลตอบแทนต่ำ ค่าพี/อี เรโชประมาณ 23 เท่า โดยสิ้นปี 2558 ค่าพี/อี เรโชอยู่ที่ประมาณ 71 เท่า แต่ผลประกอบการปี 2559 กำไรเติบโตก้าวกระโดด ค่าพี/อีเรโชจึงลดวูบลง
ไม่มีปัจจัยลบที่กระทบราคาหุ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่มีข่าวลือถึงผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ว่า ตัวเลขการดำเนินงานอาจไม่ดีนัก
ส่วนการทยอยขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก เพราะขายหุ้นออกมาจำนวนไม่มาก โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นางสาวเพชรรัตน์ จรรยธรรมพต รายงานการขายหุ้นออกจำนวน0.25%ของทุนจดทะเบียน
และล่าสุดวันที่ 21 เมษายน รายงานการขายหุ้นออกอีก 1.51% ทำให้เหลือหุ้นอยู่ 3.48% ของทุนจดทะเบียน
ขณะที่นายโชติพันธุ์ เตียวิวัฒน์ รายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายน ขายหุ้นออกจำนวน0.52% เหือหุ้นถือครอง4.94%ของทุนจดทะเบียน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ 2ราย จะทยอยขายหุ้นออกจำนวนไม่มาก แต่ก็เป็นความเคลื่อนไหวที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องติดตามค้นหาคำตอบ
เพราะเหตุใดจึงลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้ และเป็นการส่งสัญญาณลบกับแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทหรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่มีข้อมูลวงในลึกๆ จึงชิงขายลดความเสี่ยง
ขายจนสัดส่วนการถือหุ้นลดต่ำกว่า5% ซึ่งการขายหุ้นครั้งต่อไป ไม่จำเป็นต้องรายงานข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รับทราบแล้ว
จะแอบขายเงียบๆเมื่อไหร่ย่อมได้
หลังจากถูกทุบรูดหนักมาสองสัปดาห์ติด ทั้งก่อนและหลังสงกรานต์ หุ้น“คูล”เมื่อวันจันทร์เริ่มโงหัวขึ้นมาใหม่ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่คึกคัก และไม่รู้ว่า มีใครเข้ามา “ลาก”ราคาหรือไม่
แต่พฤติกรรมหุ้นตัวนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว เพราะอยู่ดีๆถูกทุบขาย จนผู้ถือหุ้นรายย่อยขวัญหนีดีฝ่อ
อยู่ดีๆก็กระชากกันขึ้นมาใหม่ และไม่รู้จะ “ไล่”ไปถึงระดับใด
“คูล” ดูเหมือนเป็นหุ้นที่มีเจ้ามือ และราคาที่รูดหนักรอบนี้ อาจเป็นเกมของเจ้ามือ และถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อของเกมราคา ควรหลีกเลี่ยงหุ่นตัวนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง