ผู้ถือหุ้น ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป อนุมัติออก TFG-W2 แจกฟรีในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ 9.50 บาทต่อหุ้น เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจ รองรับแผน และยุทธศาสตร์ Year of Growth หรือปีแห่งการเติบโต ด้านผู้บริหาร “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” ประกาศพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ หนุนรายได้ปี 60 โตเกิน 15% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 (TFG-W2) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน และเป็นทางเลือกในการลงทุนไม่เกิน 510,866,470 หน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่ปรากฏในวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิ (Record Date) โดย TFG-W2 จำนวน 1 หน่วยมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ได้ 1 หุ้น ราคาใช้สิทธิ 9.50 บาทต่อหุ้น อัตราการจัดสรร 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี กำหนดให้ใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือนมิถุนายน และธันวาคม ตลอดของใบสำคัญแสดงสิทธิ TFG-W2
สำหรับแผน และยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในปี 2560 นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งการเติบโต หรือ Year of Growth โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจะขยายทั้งสามแกนหลักของธุรกิจ ไก่ สุกร และอาหารสัตว์ และขยายฟู้ดส์เซอร์วิส และ ไส้กรอก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการผลิตไก่ สุกร อาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ราคาตลาดไก่ และสุกรที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากปลายไตรมาสที่แล้ว การเพิ่มสัดส่วนของสินค้าที่มีกำไรขั้นต้น อีกทั้งราคาวัตถุดิบทั้งในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงดีกว่าปีที่ผ่านมา จะช่วยให้รายได้และกำไรของบริษัทฯในปีนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “Year of Growth”
นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาขายเฉลี่ยของสินค้าไก่ บริษัทฯ ขยายการขายเข้าสู่ตลาดส่งออก โมเดิร์นเทรด และฟู้ดเซอร์วิส และเคเทอร์ริ่งเซอร์วิสอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนธุรกิจสุกรก็สร้างเสถียรภาพราคาขาย โดยบริษัทกำลังเปิดโรงชำแหละสุกรใหม่ที่ขอนแก่น ในเดือนนี้ และกำลังก่อสร้างโรงชำแหละสุกรเพิ่มที่ชลบุรี เพื่อขยายฐานการขายสุกรชำแหละปีนี้เข้าสู่โมเดิร์นเทรด และพันธมิตรในภาคอีสาน โดยมีเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ รายได้จากสุกรชำแหละจะเพิ่มเป็น 40% และสุกรเป็นจะลดลงเป็น 60% ของรายได้จากสุกรทั้งหมด ส่วนการผลิตอาหารสัตว์กำลังขยายกำลังการผลิต 30% เป็นเดือนละ 130,000 ตัน ขายภายนอกให้กับลูกค้า 10% และใช้สนับสนุนฟาร์มไก่ สุกร ภายในระบบ 90% โดยส่วนสินค้าไก่ปรุงสุกเพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่กว่า ตลาดไก่แช่แข็งเพื่อส่งออก บริษัทฯ ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานแล้ว โดยมีกำลังการผลิต 25,800 ตันต่อปี โดยเมื่อสร้างเสร็จในหนึ่งปี น่าจะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2 หรือ 3 ปี 2561
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโนบายเลือกการลงทุนอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น และหากไม่ชัดเจน หรือยังมีประเด็นความเสี่ยง ก็จะไม่ดำเนินการ ทั้งนี้ จะจำกัดการลงทุนรวมไม่ให้สูงกว่า ความสามารถในการสร้างกำไรสุทธิในแต่ละปี และต้องสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นไปพร้อมกัน