ผู้ถือหุ้น "ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์" โหวตหนุน ปันผลเป็นเงินสด 0.08 บาท/หุ้น เตรียมรับทรัพย์ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ บิ๊กบอส “ชัชชวี วัฒนสุข”มั่นใจแนวโน้มผลงานปี”60 นิวไฮต่อเนื่อง ส่งเครื่องดื่มชูกำลังบุกกัมพูชา-วางขายเครื่องดื่มผงรสชาติทุเรียนและมะม่วงในจีน หนุนรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กระจายความเสี่ยงธุรกิจ
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) ผู้ผลิต และจัดหาเครื่องดื่มชา และกาแฟรายใหญ่ในเซเว่นฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด สำหรับงวดผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2559 ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 26 เม.ย.2560 วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 27 เม.ย. 2560 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 เม.ย.2560 และกำหนดจ่ายปันผลให้ในวันที 17 พ.ค.2560
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม 2560 ได้เปิดตัวสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดกัมพูชา ภายใต้แบรนด์ Jump Start เจาะกลุ่มค้าพรีเมี่ยม ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล และได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเครื่องดื่มชาเขียว Zenya ที่บริษัทฯเข้าไปทำตลาดในช่วงก่อนหน้า จนเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดกัมพูชา
นอกจากนี้ บริษัทฯได้วางขายเครื่องดื่มผงรสชาติทุเรียนและมะม่วงในตลาดจีน ภายใต้แบรนด์ Sawasdee ตั้งแต่เดือนก.พ.2560 เป็นต้นไป จะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้น จากในปี 2559 มีสัดส่วนราว 9% ของรายได้รวม
ในขณะที่ในปลายเดือนมี.ค.2560 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่ต้อนรับซัมเมอร์ "Zenya Mocktail" เครื่องดื่มพร้อมดื่มแบบใหม่ในถุงซิปล็อค เพียงกดน้ำแข็ง สามารถผสมโซดา มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ มี 2 รสชาติ คือ "Magarita Mocktail" และ "Mai Tai Mocktail" วางจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ประมาณ 2,300 สาขา ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคใต้ โดยเน้นแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ในช่วงไตรมาส 2/60 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ประธานกรรมการบริหารTACCกล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 2560 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตเกิน 10-15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,183.94 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะทำ New High จากการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนที่วางจำหน่ายใน 7-Eleven ที่บริษัทฯได้รับโอกาสด้วยดีเสมอมา และแผนการบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนที่มาของรายได้ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ของกลุ่ม Non 7-Eleven ในปี 2563 อยู่ที่ 35% ของรายได้จากขาย เพื่อกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น