ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ เผยรายได้พุ่งจากยอดขายไฟฟ้านิวไฮในไตรมาส 1/60 จากโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่ง หลังปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ด้านผู้บริหารลุ้น กกพ. ปรับขึ้นค่า Ft ในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 2560 อีกประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลดีต่อรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาส 2/60
นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายโรงงาน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินภาพรวมปริมาณไฟฟ้าที่จำหน่ายในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าจะทำสถิตินิวไฮ สูงสุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่งในปัจจุบัน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 20 MW โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 60 MW โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 40 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW สามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้ารวมกันได้สูงถึง 197 ล้านหน่วย ซึ่งสูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่จำหน่ายไฟฟ้าประมาณ 180 ล้านหน่วย โดยการเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรแล้วเสร็จเมื่อปลายปีก่อน และทำให้อัตรากำลังการผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าสูงขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้สูง เนื่องจาก TPIPP ได้เพิ่มจำนวนหม้อผลิตไอน้ำ และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทำให้สามารถใช้กำลังการผลิตของกังหันผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยแล้วเสร็จตามกำหนดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ สามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้จำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/60 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 20 MW และ 60 MW ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. โดยได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ที่ 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี นับจากวันที่เริ่มซื้อขายไฟฟ้า
“ในไตรมาสแรกเราประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่ง ส่งผลให้เราสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และคาดว่าในอนาคตบริษัทฯ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อัตรากำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตด้านผลการดำเนินงานของเราต่อไป”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีแนวโน้มปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) ในรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560 ที่อัตราประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วย หลังจากทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น และเริ่มมีการจ่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรูปแบบต่างๆ เข้าสู่ระบบ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ TPIPP ได้รับประโยชน์จากการดำเนินนโยบายของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่ง ในช่วงไตรมาส 2/60 และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง