บล.โกลเบล็ก จับตาความตึงเครียดในซีเรีย-คาบสมุทรเกาหลีกดดันหุ้นไทย ให้กรอบดัชนี 1,560-1,600 จุด เก็งกำไรหุ้นผลงานไตรมาส 1/60 เด่น ด้านแนวโน้มราคาทองคำ ให้ระดับ 1,275 ดอลลาร์ เป็นทั้งจุดเข้า และจุดคัต ซึ่งฝั่ง long ได้เปรียบเมื่อราคาอยู่เหนือ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถ้าต่ำกว่านี้ให้ปรับมาเล่นแบบ swing trade
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่มีความสำคัญในตลาดโลกอยู่ในทิศทางที่ดี ล่าสุด จีนรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2560 ขยายตัว 6.9% ขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งดีกว่าคาดการณ์ที่ 6.8% และสูงกว่าเป้าหมายปี 2560 ที่กำหนดไว้ที่ 6.5% ประกอบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2560 ของกลุ่มธนาคาร ที่จะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อน แม้สินเชื่อเติบโตเล็กน้อย แต่การตั้งสำรองหนี้ลดลง
ทั้งนี้ ทิศทางเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วงเวลาที่เหลือยังมีแนวโน้มดี โดยสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวจนกลับมาขยายตัวราว 3.5% จากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี การลงทุนภาครัฐ และเอกชนที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรกำลังปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาเป็นบวก
ส่วนปัจจัยกดดันมาจากความตึงเครียดในซีเรีย และคาบสมุทรเกาหลีที่ยังไม่มีความแน่นอน และต้องจับตาใกล้ชิดว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ และ Fund Flow ต่างชาติผันผวนจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย และเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 19 เม.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จะทราบผลในเช้าวันที่ 20 เม.ย. สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีเศรษฐกิจเดือน มี.ค. และดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือน เม.ย. ภายใน 21 เม.ย. หุ้นกลุ่มธนาคาร มีกำหนดส่งงบการเงินไตรมาส 1/2560 และในวันที่ 21 เม.ย. กลุ่มประเทศอียู จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นเดือน เม.ย.
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการซื้อดักงบไตรมาส 1/2560 ที่คาดว่าจะออกมาดี เช่น กลุ่มธนาคาร และพลังงาน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย และเกาหลีเหนือ จะเป็นตัวถ่วงต่อทิศทางตลาด ดังนั้น ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,560-1,600 จุด
ทั้งนี้ รอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy ในหุ้นที่คาดว่า กำไรไตรมาส 1/2560 เติบโต ประกอบด้วย SCB, PTTEP, PTTGC, TOP, BANPU และ TPCH
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า การตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีที่จะนำสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบในหลายภูมิภาคนั้น เป็นไปได้น้อยมาก ซึ่งการยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศซีเรีย การบอมบ์ฐานลับกลุ่ม IS ในอัฟกานิสถาน และการเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี ต่างเป็นอะไรที่น่าจะมีการเจรจาขออนุญาตกันแล้วกับทางรัสเซีย และจีน อันนำมาซึ่งการผ่านร่างงบประมาณฉบับแรกที่มุ่งเน้นความมั่นคงของประเทศ และเอื้อแก่กองทัพสหรัฐฯ แต่ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ลง
เราประเมินว่า รัสเซีย กับจีนน่าจะได้ประโยชน์จากการป้องปรามการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยไม่ต้องออกหน้าเอง โดยแลกกับการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ต่อไป ซึ่งภายหลังการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กลับลำออกมาบอกว่า จีนไม่ได้บิดเบือนค่าเงินเพื่ออุดหนุนการส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม จึงคาดการณ์การอ่อนลงของราคาทองคำจากการขายทำกำไรตามระดับความกังวลของตลาดที่ลดลง แต่ยังคงให้น้ำหนักการถือสถานะ long เป็นหลัก เนื่องจากความตึงเครียดในซีเรีย และคาบสมุทรเกาหลี ยังคงมีความคลุมเครือ จึงอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดโภคภัณฑ์ได้อีก โดยให้ระดับราคาทองคำ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นทั้งจุดเข้า และจุดคัต ซึ่งฝั่ง long ได้เปรียบเมื่อราคาอยู่เหนือ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถ้าต่ำกว่านี้ให้ปรับมาเล่นในลักษณะ swing trade