xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มทิสโก้ ฟันกำไร Q1/60 ทะลุ 1,490.76 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้
TISCO GROUP ฟุ้งไตรมาส 1/2560 บริษัทฯ ฟันกำไรรวมกว่า 1,490.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 235.73 ล้านบาท หรือ 18.8% เทียบไตรมาสเดียวกันกับของปี 2559 เหตุดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และตั้งสำรองสำรองหนี้สูญที่ลดลง คาดไตรมาส 2 ยังโตต่อเนื่อง พุ่งเป้าขยายงานถ่ายโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อย

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2560 ของกลุ่มทิสโก้ มีกำไรสุทธิ 1,490.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 235.73 ล้านบาท หรือ 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559 ผลจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม ประกอบกับการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ และความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่ดี

สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 นั้น กลุ่มทิสโก้ ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ภายใต้การบริหารความเสี่ยง และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะการเดินหน้าการถ่ายโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) หลังธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบให้ดำเนินการตามโครงการโอน และรับโอนกิจการของลูกค้ารายย่อย ประกอบด้วย ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management) เงินฝากรายย่อย รวมทั้งสาขาจากธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด ให้แก่ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และการถ่ายโอนธุรกิจบัตรเครดิตให้แก่บริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มธนาคารทิสโก้ โดยปัจจุบัน การดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2560

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้ ในไตรมาส 1 ปี 2560 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,490.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลัก ประกอบกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2.7% จากความสามารถในการรักษาอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรวม และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.3% จากการเติบโตของทุกภาคธุรกิจ รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ขยายตัวตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มมากขึ้น และส่วนแบ่งตลาดของ บล.ทิสโก้ ที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้นตามการออกกองทุนที่ตอบรับความต้องการของตลาดในช่วงตลาดทุนผันผวน นอกจากนี้ กลุ่มทิสโก้ รับรู้รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจ จากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ในไตรมาสที่ผ่านมา ในส่วนของการตั้งสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้ ลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น

ส่วนของเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 มีจำนวน 220,522.70 ล้านบาท ลดลง 2.0% จากสิ้นปีก่อนหน้า ตามนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของกลุ่มทิสโก้ อย่างไรก็ตาม สินเชื่ออเนกประสงค์ยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ที่ 1.8% ตามแผนการขยายธุรกิจ และสาขาของกลุ่มทิสโก้ ในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้น ตามนโยบายการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 8.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า และอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2560 ลดลงจาก 2.50% ณ สิ้นปี 2559 มาอยู่ที่ 2.37% ขณะเดียวกัน สัดส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 164%

“กลุ่มทิสโก้ ยังคงสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังคงอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำที่ 40.9% นอกจากนี้ ธนาคารทิสโก้ ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ (BIS Ratio) อยู่ที่ 19.8% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ 9.75% ซึ่งกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 14.9% และ 4.9% ตามลำดับ”
กำลังโหลดความคิดเห็น