ผู้จัดการรายวัน360 - “บิ๊กเจ” ลั่น ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 แตะ 200 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าธุรกิจน้ำแบบครบวงจรรองรับนโยบายรัฐตามแผน Eastern Economic Corridor ทุ่มงบลงทุน 1200 ล้านบาทโครงการบริหารจัดการน้ำต่อเนื่อง เผยให้ผู้รับเหมางานคลองทับมาเร่งแก้ข้อพิพาท คาดแล้วเสร็จในเร็ววันนี้
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมปรับปรุงการดำเนินงานในปีนี้ โดยจะเน้นใน 2 ด้าน คือ การเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และการเพิ่มปริมาณน้ำสำรองให้เพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย EEC (Eastern Economic Corridor) ของรัฐบาลในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยครอบคลุมการขยายสนามบินอู่ตะเภา การขยายท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด และขยายท่าเทียบเรือแหลมฉบัง ตลอดจนการลงทุนรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ตลอดจนถึงทางด่วนมอเตอร์เวย์เส้นคู่ขนานเส้นทางใหม่ ทำให้เกิดการขยายตัวเป็นชุมชนเมืองเกิดใหม่ตามพื้นที่ EEC อีกอย่างน้อย 4 เมือง คาบเกี่ยวใน 3 จังหวัดที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ คือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และจังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ให้บริการทั้งหมดกว่า 500 ตารางกิโลเมตร
“โอกาสทางธุรกิจของเราจะมาจากการที่รัฐบาลกำหนดจุดเมืองใหม่ 4 เมืองใน 3 จังหวัดตามยุทธศาสตร์ EEC ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราจะได้ประโยชน์จากยุทธศาสตร์ของรัฐบาลนี้ คือ ปริมาณการใช้น้ำประปาที่คาดว่า จะมียอดจำนวนผู้ใช้มากขึ้น และการเข้าไปรับงานด้านบริหารจัดการน้ำเสียทั้งระบบ ตั้งแต่การแสวงหาน้ำดิบที่เป็นน้ำต้นทุน จนถึงการปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค และภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนถึงการบำบัดน้ำเสียซึ่งสามารถวางแผนได้ตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะธุรกิจการจัดการน้ำเสียที่จะเป็นหนึ่งในโครงสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการให้บริการด้านน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมแล้ว บริษัทฯเตรียมที่จะเข้าไปลงทุนในการให้บริการด้านบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร หรือ total solution โดยบริษัทลูกค้าที่ซื้อน้ำจากอีสท์วอเตอร์ ไปแล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย ไม่ต้องนำไปผ่านขั้นตอนการต่างๆ อีก ครอบคลุมไปถึงการส่งน้ำดิบ และการบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดอีกด้วย
ขณะที่ในส่วนของเป้าหมายรายได้ในปีนี้ บริษัทฯ ประเมินว่า จะเติบโตขึ้นเล็กน้อยหากเทียบกับปี 2559 เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ไม่มีน้ำเพียงพอต่อความต้องการทั้งในภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม โดยปีนี้บริษัทฯ มองว่า ปริมาณการใช้น้ำดิบจะอยู่ที่ 290-300 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกัน บริษัทมองว่า ในแผนระยะยาว 3-5 ปีที่รัฐบาลเริ่มเดินหน้าโครงการ EEC แล้ว จะทำให้รายได้เติบโตอย่างโดดเด่น
นอกจากนี้ ในส่วนของงบลงทุนที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจนั้น บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยเป็นงบลงทุนต่อเนื่องจากโครงการในปีที่ผ่านมา จำนวนประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างแหล่งเก็บน้ำต้นทุน ขณะที่งบที่ใช้ลงทุนในปีนี้จะเป็นงบลงทุนในส่วนที่เหลือจากโครงการต่อเนื่องดังกล่าว โดยแบ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของสถานีสูบน้ำบางปะกง จำนวน 240 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อปรับปรุงงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน
ในส่วนของ บมจ.ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ หรือ UU ที่ได้ผ่านการพิจารณาไฟลิ่งจากทาง ก.ล.ต.แล้ว โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ขณะที่ในส่วนของปัญหาการรุกล้ำพื่นที่สัญจรสาธารณะของโครงการอ่างเก็บน้ำ คลองทับมา ของบริษัทผู้ที่รับงานประมูลเข้าไปดำเนินการนั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการเร่งแก้ปัญหาที่ข้อพิพาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกระบวนการภายในเร็วๆ นี้