“ทวิช” จี้ “หมอวิชัย” หยุดขวางผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าฟื้นฟูธุรกิจ

“ทวิช เตชะนาวากุล” ร่อนหนังสือถึง “หมอวิชัย” จี้หยุดสอดไส้วาระการประชุมบอร์ด ขวางผู้ถือหุ้นใหญ่เข้ามาฟื้นฟูกิจการ วอนกำหนดวาระประชุมให้ชัด หยุดเล่นเกมรวบอำนาจบริหาร สร้างความเสียหายให้กับบริษัท-ผู้ถือห้นรายย่อย เรียกร้องตลาดหลักทรัพย์ฯ-ก.ล.ต.เข้ามาจัดการปัญหา ผวาสร้างบรรทัดฐานที่ผิดทำให้นักลงทุนไทย-ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย

นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการ ของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ในวันนี้ (7 เม.ย.2560) ได้ทำหนังสือถึง นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC พร้อมกับสำเนาถึงผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเรียกร้องให้ประธาน IFEC ทำการประชุมให้ถูกกฎหมาย และเสนอวาระที่สำคัญที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พึงปฏิบัติ โดยประเด็นสำคัญ คือ วาระการรับรองงบการเงินประจำปี 2559 และการแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี

“ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาภายในบริษัทฯ ผมได้ติดตาม IFEC มาโดยตลอด ก็เห็นว่า มีการปฏิบัติถูกต้องมาโดยตลอด มีคะแนน CG ที่ดี การจัดประชุมผู้ถือหุ้นตั้งแต่ก่อนประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 ก็จัดว่า อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับคะแนนในระดับดี จากการประเมินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องตัดสินใจทำหนังสือแจ้งบริษัทในวันนี้อีกครั้ง โดยเสนอแนะว่า เพิ่มเติมวาระตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทจดทะเบียนทั่วไปใน SET ที่ยึดถือ และปฏิบัติกันมาตลอด”
 
นายทวิช กล่าวต่อว่า การประชุมบอร์ดควรกำหนดวาระให้ชัดเจน ไม่ใช่เตรียมสอดไส้อะไรมาก็ไม่รู้ในวันประชุม เพื่อหวังเพียงที่จะเอาชนะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ได้รับการไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นเลือกให้เป็นกรรมการ เพื่อให้เข้ามาฟื้นฟูธุรกิจของบริษัทฯ เรียกความเชื่อมั่นเจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้น ซึ่งจริงๆแล้ว โจทย์ใหญ่ที่ IFEC ต้องเร่งแก้ไข คือ ทำอย่างไรให้ปิดงบการเงินของรอบบัญชี ปี 2559 ให้ทันตามที่กฎหมายกำหนด และกำหนดแนวทางแก้ปัญหาหนี้ตั๋วบี/อี รวมถึงแผนการฟื้นฟูกิจการให้กลับมาแข็งแกร่งดังเดิม เพื่อเดินหน้าธุรกิจ และปลดเครื่องหมาย SP แต่สิ่งที่ประธาน IFEC เร่งดำเนินการ กลับเป็นการเรียกประชุมบอร์ด เพื่อแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ เพื่อกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เพื่อรับรอง และแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ทดแทนกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระ เพียงเพื่อขัดขวางการเข้ามาของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นกรรมการมากถึง 5 ท่าน ในการประชุมวิสามัญเมื่อครั้งที่ผ่านมา

“หมอวิชัยควรหยุดเล่นเกมได้แล้ว และควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด อย่างที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ซึ่งผม และบอร์ดชุดใหม่กังวลเรื่องนี้เป็นอย่างมาก”

นายทวิช กล่าวอีกว่า การบริหารงาน IFEC ภายใต้การดำเนินงานของนายแพทย์วิชัย ได้สร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ มาโดยตลอด ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเข้ามาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนำหุ้น ICAP ที่มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ไปจำนองให้กับเจ้าหนี้ แลกกับจำนวนหนี้เพียง 200 ล้านบาท การนำโรงไฟฟ้าชีวมวลไปขายโดยได้รับเงินมัดจำมาแล้ว 50 ล้านบาท ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดชุดใหญ่ ซึ่งนายวิชัย ยังกล้าที่จะกระทำเรื่องดังกล่าวลงไป หากปล่อยให้นายวิชัย ที่ถือหุ้นในสัดส่วนเพียงแค่ 2% ดำเนินการอย่างนี้ และทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้กุมอำนาจบริหารงาน ท้ายที่สุดแล้ว จะทำให้เกิดบรรทัดฐานที่ผิดๆ ทำลายความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ในสายตาของนักลงทุนไทย และต่างประเทศ

“ถ้าประธาน IFEC ตั้งใจที่จะเดินหน้าพลิกฟื้นบริษัทฯ ตามที่กล่าวอ้างมาโดยตลอด จะต้องกำหนดวาระการประชุมบอร์ดให้ชัดเจน มีรายละเอียดให้กรรมการชุดใหม่ได้พิจารณา และที่สำคัญต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะผมกังวลว่า สิ่งที่ประธาน IFEC เร่งดำเนินการอย่างลุกลี้ลุกลนในขณะนี้ กำลังเข้าข่ายผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายให้บริษัทฯ โดยเฉพาะการประชุมบอร์ดในวันที่ 10 เมษายน 2560 ที่จะถึงนี้ จึงอยากให้สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ เร่งจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นใน IFEC เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายเกิดขึ้นมากกว่านี้ จากความพยายามของประธาน IFEC ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดการเข้ามาของกลุ่มนายทวิช และพยายามเดินหน้าเข้าสู่การประชุม AGM เพื่อจัดให้มีการตั้งบอร์ดชุดใหม่ เพื่อเทคะแนนเสียงให้กับบอร์ดในฝั่งของตัวเอง ไม่มองถึงผลประโยชน์ของบริษัทฯ ซึ่งจริงๆ แล้ว ต้องมีการพิจารณางบการเงิน และเดินหน้าฟื้นฟูกิจการของบริษัท ไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางมาร่วมประชุม เพียงแค่รับรองรายงานการประชุม และแต่ตั้งกรรมการชุดใหม่เพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่นักลงทุนอยากรู้ คือ เกิดอะไรขึ้นกับ IFEC สถานะทางการเงินที่แท้จริงเป็นอย่างไร แล้วมีแผนจะดำเนินการอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจบริษัทฯ” นายทวิช กล่าว