ทีพีไอ เพาเวอร์ ซื้อขายวันแรกต่ำจอง 30 สตางค์ หรือ 4.29% จากราคา IPO หุ้นละ 7 บาท "ประชัย" เผยต่ำจองถือเป็นเรื่องปกติ และหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจไฟฟ้าจะไม่หวือหวา
หุ้นของ บริษัท ทีพีไอ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) TPIPP เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยเปิดการซื้อขายที่ 6.75 บาทต่อหุ้น ปรับตัวลดลงจากราคาจองซื้อที่ 7 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 3.57% ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ 6.60 บาท เมื่อปิดตลาดพบว่า ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.70 บาท คิดเป็นลดลง 0.30 บาท หรือ 4.29% มูลค่าซื้อขาย 4,824.73 ล้านบาท
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ TPIPP เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นวันแรกที่ปรับตัวลดลงต่ำกกว่าราคาจองซื้อนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ปกติ และไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งอาจจะไม่หวือหวามากนัก
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น TPIPP เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของหุ้นนั้น ทางกลุ่มผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์มีความมั่นใจในพื้นฐานระยาวของบริษัท โดยธุรกิจไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภค และต้องใช้ทุกวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเชื้อเพลิงขยะจะโดดเด่นที่สุด และกิจการของTPIPP จะได้รับความสนับสนุนมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TPIPP มีมติเห็นชอบที่จะไม่ขาย จำหน่าย หรือโอนหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP ทั้งหมด 5,899,999,300 หุ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันแรกที่หุ้นสามัญของ TPIPP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหุ้นจำนวนดังกล่าว คือ 70.2% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TPIPP ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ซึ่งสูงกว่าหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ห้ามไม่ให้ TPIPP ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP 4,620 ล้านหุ้น หรือ 55% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนภายในระยะเวลา 1 ปี (Silent Period)
เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตของ TPIPP ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง รวมถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) จึงต้องการถือหุ้นในระยะยาว
หุ้นของ บริษัท ทีพีไอ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) TPIPP เข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยเปิดการซื้อขายที่ 6.75 บาทต่อหุ้น ปรับตัวลดลงจากราคาจองซื้อที่ 7 บาทต่อหุ้น หรือลดลง 3.57% ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ 6.60 บาท เมื่อปิดตลาดพบว่า ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.70 บาท คิดเป็นลดลง 0.30 บาท หรือ 4.29% มูลค่าซื้อขาย 4,824.73 ล้านบาท
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ TPIPP เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นวันแรกที่ปรับตัวลดลงต่ำกกว่าราคาจองซื้อนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ปกติ และไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งอาจจะไม่หวือหวามากนัก
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น TPIPP เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของหุ้นนั้น ทางกลุ่มผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์มีความมั่นใจในพื้นฐานระยาวของบริษัท โดยธุรกิจไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภค และต้องใช้ทุกวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าเชื้อเพลิงขยะจะโดดเด่นที่สุด และกิจการของTPIPP จะได้รับความสนับสนุนมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บมจ.ทีพีไอ โพลีน หรือ TPIPL ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TPIPP มีมติเห็นชอบที่จะไม่ขาย จำหน่าย หรือโอนหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP ทั้งหมด 5,899,999,300 หุ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันแรกที่หุ้นสามัญของ TPIPP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหุ้นจำนวนดังกล่าว คือ 70.2% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TPIPP ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ซึ่งสูงกว่าหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ห้ามไม่ให้ TPIPP ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน TPIPP 4,620 ล้านหุ้น หรือ 55% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนภายในระยะเวลา 1 ปี (Silent Period)
เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตของ TPIPP ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง รวมถึงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) จึงต้องการถือหุ้นในระยะยาว