xs
xsm
sm
md
lg

โกลบอลกรีนเคมิคอล ขาย IPO 247 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โกลบอลกรีนเคมิคอล เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 246,666,700 หุ้น ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินอีกจำนวนไม่เกิน 37 ล้านหุ้น ซึ่ง GGC จะเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมบริษัทแรกที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ พร้อมเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ระหว่างวันที่ 20-21 และ 24 เมษายนนี้

นายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก โดยจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้มาลงทุนในโครงการเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 2 ที่อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี โครงการพัฒนาไบโอคอมเพล็กซ์ (Biocomplex) ระยะที่ 1 ที่จังหวัดนครสวรรค์ และนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน และเงินลงทุนเพิ่มเติม (หากมีความจำเป็น) ในทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ทั้งนี้ GGC มุ่งหมายที่จะขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ 1) เชื้อเพลิงชีวภาพ 2) เคมีชีวภาพที่ผลิตจากปาล์ม (โอลีโอเคมี) และอ้อย และ 3) พลาสติกชีวภาพ ที่จะเป็นกำลังสำคัญของการเติบโตของ GGC ในอนาคต”

ปัจจุบัน GGC มีกำลังการผลิตติดตั้งเมทิลเอสเทอร์ อยู่ที่ 300,000 ตันต่อปี กำลังการผลิตติดตั้งแฟตตี้แอลกอฮล์อยู่ที่ 100,000 ตันต่อปี และกำลังการผลิตติดตั้งกลีเซอรีนบริสุทธิ์ อยู่ที่ 31,000 ตันต่อปี โดยอัตรากำลังการผลิตของโรงงานของบริษัทฯ อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

นายจิรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเพิ่มกำลังการผลิตเมทิลเอสเทอร์ ด้วยการสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งที่ 200,000 ตันต่อปี เป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มในการเติบโตของอุปสงค์ที่ดีในอนาคต จากการประมาณการโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานว่า การบริโภคเมทิลเอสเทอร์ จะสูงขึ้นถึง 5 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2569 และ 14.0 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2579 นอกจากนี้ การมีโรงงานผลิตเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 2 จะช่วยให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นในการจัดสรรวัตถุดิบ และสามารถปรับกำลังการผลิตให้มีความเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุด”
 
สำหรับโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ มีแผนการพัฒนาเป็น 2 ระยะ ในระยะที่หนึ่ง บริษัทฯ วางแผนที่จะร่วมทุนกับ บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS โดยโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ระยะที่หนึ่ง จะประกอบด้วย (1) โรงผลิตน้ำอ้อย และน้ำเชื่อมจากอ้อย ซึ่งมีกำลังการหีบอ้อย 2.4 ล้านตันต่อปี (2) โรงงานเอทานอล ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 186 ล้านลิตรต่อปี (3) โรงงานไฟฟ้าชีวมวลและผลิตไอน้ำความดันสูง เพื่อใช้ในโครงการฯ รวมทั้งสามารถจำหน่ายปริมาณการผลิตส่วนเกินให้แก่บุคคลภายนอก และ (4) โครงสร้างสาธารณูปโภคเพื่อรองรับโครงการฯ และโครงการธุรกิจเคมีชีวภาพในอนาคต ขณะที่ในระยะที่สอง เพื่อให้มีการลงทุนต่อเนื่อง บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และเคมีชีวภาพโดยใช้น้ำอ้อย เอทานอล ผลิตภัณฑ์อื่นๆ และผลิตภัณฑ์พลอยได้จากโครงการ
 
ทั้งนี้ โรงงานผลิตเมทิลเอสเทอร์ แห่งที่ 2 อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2561 ขณะที่โครงการไบโอคอมเพล็กซ์ อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ และรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน รวมไปถึงการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การออกแบบทางวิศวกรรม ตลอดจนการขออนุญาตต่างๆ ทางกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562

“GGC เชื่อมั่นว่า ประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับความโดดเด่นในอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีระดับภูมิภาค และศักยภาพที่จะเติบโตในอุตสาหกรรม และความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับกลุ่ม PTTGC และกลุ่ม ปตท. ชื่อเสียงด้านการค้าที่แข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์ และมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ รวมถึงทำเลที่ตั้งของโรงงานในเชิงยุทธศาสตร์ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ใกล้ชิดทั้งกับคู่ค้า และลูกค้า จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ เดินหน้าเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคง พร้อมกับสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อไปในระยะยาว” นายจิรวัฒน์ กล่าว

สำหรับการเสนอขายในครั้งนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ได้ระหว่างวันที่ 20-21 และ 24 เมษายน รวม 3 วันทำการ ภายในระยะเวลาทำการ ที่สำนักงานของผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายข้างต้น นอกจากนี้ ยังมีบริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายอีก 7 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตามรายละเอียดในหนังสือชี้ชวน
 
ทั้งนี้ โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC บริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมของกลุ่ม PTTGC ประกาศแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมนำเสนอข้อมูลของบริษัทฯ ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตเมทิลเอสเทอร์รายใหญ่ และเป็นผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์เพียงรายเดียวในประเทศไทยมากว่า 10 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น