ประธานบอร์ด เซ็ปเป้ เผยประเมินเป้ารายได้ปี 2560 เติบโต 10% หรือ 3,000 ล้านบาท เทียบจากยอดขายปีที่ผ่านมา พร้อมปรับสัดส่วนการขายรุกตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิต และอัดฉีดโปรโมชั่นการตลาด
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็ปเป้ หรือ SAPPE กล่าวถึงแผนการธุรกิจในปี 2560 ว่า บริษัทฯ ประเมินรายได้รวมปี 2560 นี้ คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% หรือใกล้เคียงรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยจะเน้นกลยุทธการขายต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 15% โดยมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมร้านค้าปลีกรายย่อยในประเทศจีน และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศหลัก โดยเฉพาะในจีนที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย และมีศักยภาพการซื้อสูง และมีโอกาสในการขยายตลาดได้อีกมาก นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นลงทุนด้านการขาย และกิจกรรมการตลาดมากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในการเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายร่วมกัน เพื่อเพิ่มช่องทางการขายในประเทศจีน ซึ่งประเมินว่าสัดส่วนรายได้รวมการขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดในประเทศจีน จะเติบโตได้ 20% และอินโดนีเซีย จะเติบโตกว่า 6% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในสว่นของตลาดภายในประเทศนั้น มองว่าในปีนี้จะมีการเติบโตประมาณ 15% โดยบริษัทฯ วางงบลงทุนรวมปีนี้ไว้ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น การปรับปรุงเครื่องจักร จำนวน 100-150 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นงบการตลาด โดยล่าสุด บริษัทฯ ทุ่มงบลงทุน 50 ล้านบาท จัดแคมเปญ “เซ็ปเป้คาราวาน : ภารกิจมอบมง แซ่บ เป๊ะ ปัง” ที่หวังว่าจะผลักดันยอดขายตลาดในประเทศให้เพิ่มขึ้นได้อย่างน้อย 30% ในช่วงฤดูร้อน และคาดว่าสิ้นปีรายได้ในประเทศจะเติบโตเฉลี่ยที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มในไตรมาสแรกของปี 2560 มองว่าเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีแคมเปญส่งเสริมการขายทั้งในกลุ่มชาเขียว และกลุ่มน้ำอัดลม ตลอดจนถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด และความเป็นผู้นำตลาด ขณะที่เซ็ปเป้ ยังเน้นการออกสินค้าใหม่ โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว 7 รายการ ได้แก่ เลโม เพลย์ น้ำมะนาววิตามินซีสูง 200% สูตรเวอร์จิ้น เลมอนเนด และพิ้งค์ เลมอนเนด, เครื่องดื่มเซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ กลิ่นแอปเปิ้ล สูตรน้ำตาลน้อย, กุมิ กุมิ บาย โมกุ โมกุ รสเมลอนญี่ปุ่น และลิ้นจี่จักรพรรดิ 2 รสชาติใหม่ และเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ สูตรแอคทีฟ ฟอร์ซ และสูตรรีแล็กซิ่ง คาล์ม เป็นต้น ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ คาดจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 2 รายการ เพื่อผลักดันยอดขายได้ตามเป้าหมาย
ด้านการเติบโตของตลาดในประเทศ เซ็ปเป้ ยังสามารถรักษาอันดับหนึ่งในเชิงยอดขาย และส่วนแบ่งการตลาดใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 27% เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มฟังชันนอลดริงก์สำหรับผู้หญิง, เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ มีส่วนแบ่งการตลาด 48% เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่มีชิ้นเนื้อว่านหางจระเข้ และกาแฟเพรียว คอฟฟี่ มีส่วนแบ่งการตลาด 25% เป็นอันดับหนึ่งเชิงปริมาณการขายของกลุ่มฟังชันนอลคอฟฟี่
“สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัว แต่เชื่อว่าในไตรมาส 2/60 จะเริ่มกลับมาดีขึ้น จากเป็นช่วงของฤดูกาลขาย ประกอบกับมองตลาด Food and Beverage ในปีนี้จะเติบโตได้ที่ 3-4%”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาในการเข้าร่วมลงทุน หรือเข้าซื้อกิจการในธุรกิจ Food and Beverage ภายในประเทศ แต่ยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้ ซึ่งหากมีการลงทุนเกิดขึ้น บริษัทฯ ก็มีแหล่งเงินลงทุนที่เพียงพอ และมีหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ ยังสามารถกู้ยืมจากสถาบันทางการเงินได้อีกมาก เนื่องจากหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ของบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ