xs
xsm
sm
md
lg

GL แจงกรณีดอกเบี้ยค้างรับจากผู้กู้ 2 กลุ่มที่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ตามที่บริษัท กรุ๊ปลิส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2559 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับเงินให้กู้ยืม และดอกเบี้ยค้างรับ 3,477 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของสินทรัพย์สุทธิรวม ณ วันที่ 31 ธ.ค.59 และบริษัทได้ชี้แจงมาเป็นระยะนั้น บริษัทขอชี้แจงเพิ่มเติมกรณีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และการถือหุ้นกับบริษัท และ/หรือ Group Leasa Holdings Pte.Ltd. หรือ GLH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งหมดใน GLH ว่า บริษัท และบริษัทย่อยไม่มีความเกี่ยวโยงกัน เนื่องจาก
1.ผู้กู้กลุ่มไซปรัส และผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารในบริษัท และบริษัทย่อย และผู้บริหาร กรรมการของบริษัท และบริษัทย่อย ก็ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารของผู้กู้กลุ่มไซปรัส และผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์

2.ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ และผู้กู้กลุ่มไซปรัสไม่มีความเกี่ยวโยงกันแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้กู้ไซปรัส ถือหุ้นในบริษัทรวมจำนวน 11.5 ล้านหุ้นคิดเป็น 0.75% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท และผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ถือหุ้นบริษัทโดยผ่านบริษัทในเครือรวมประมาณ 75 ล้านหุ้น คิดเป็นประมาณ 4.96% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท

ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ซึ่งมียอดเงินต้นรวม 56,346,950 ดอลลาร์สหรัฐ เงินต้นจำนวน 16,775,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะครบกำหนดในปี 2560 และเงินต้น จำนวน 39,571,950 ดอลลาร์สหรัฐ จะครบกำหนดในปี 2561

ทั้งนี้ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 กลุ่มผู้กู้สิงคโปร์ มีหลักประกันเงินกู้ 140,043,405 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4,824,491,178.20 บาท) ในจำนวนนี้มีหุ้นสามัญของบริษัทมูลค่าประมาณ 109.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,786,051,763.63 บาท) และมีดอกเบี้ยค้างรับ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ทั้งสิ้น 4,832,930 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 16,6494,296.18 บาท)

สำหรับผู้กู้กลุ่มไซปรัส ซึ่งมียอดเงินต้นรวม 39,518,437 ดอลลาร์สหรัฐ เงินต้นจำนวน 16,572,127 ดอลลาร์สหรัฐ จะครบกำหนดในปี 2561 และเงินต้น จำนวน 22,946,310 ดอลลาร์สหรัฐ จะครบกำหนดในปี 2562 นั้น

โดยผู้กู้กลุ่มไซปรัส มีหลักประกัน ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 โดยรวมหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 11,500,000 หุ้นแล้วทั้งสิ้น 43,149,551 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,486,500,761.27 บาท) และมีดอกเบี้ยค้างรับ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ทั้งสิ้น 2,201,134 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 75,829,001.48 บาท)

รายได้ดอกเบี้ยจากผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่ม ณ ปี 2559 รวมกันเป็นเงิน 13.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 485 ล้านบาท โดย GLH ได้รับชำระในปี 2559 ประมาณ 6.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 218 ล้านบาท และได้รับในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ประมาณ 3.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 123 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประมาณ 4.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 144 ล้านบาท GLH ได้ส่งในแจ้งหนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2560 คาดว่าจะได้รับชำระประมาณเดือนเมษายน 2560

พร้อมกันนี้ GL ชี้แจงกรณีการขยายระยะเวลาชำระเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้ทั้ง 2 รายว่า ไม่ได้เกิดจากการผิดนัดชำระหนี้ แต่การดำเนินงานของ GLH จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระตามสัญญาเงินกู้ที่เกี่ยวข้องเป็นรายไตรมาส โดยปกติ GLH จะออกไปแจ้งหนี้สำหรับดอกเบี้ยดังกล่าวภายใน 5-6 อาทิตย์หลังจากสิ้นไตรมาส โดยมีกำหนดให้ผู้กู้ชำระเงินตามจำนวนที่ได้รับใบแจ้งหนี้ภายใน 1-3 อาทิตย์ ทั้งนี้ ในปี 2558 และ 2559 ไม่มีดอกเบี้ยค้างชำระ ผู้สอบบัญชีจึงพิจารณาว่า เงินกู้ยืมดังกล่าวเป็น “ลูกหนี้ปกติ” และไม่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น