“เชือดอำมหิตรายย่อย”
เศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว แต่ตลาดหุ้นกลับคึกคัก แก๊งมิจฉาชีพยังทำมาหากินคล่อง รวยกันเพลิน จากเทคนิคการปล้นรูปแบบใหม่
การเพิ่มทุน ซื้อทรัพย์สิน ตั้งบริษัทลูก ปล่อยเงินกู้บริษัทในเครือ เพื่อผ่องถ่ายเงินออก กลายเป็นสูตรสำเร็จการปล้นรูปแบบใหม่ โดยผู้ถือหุ้นรายย่อย “ซวย” แต่แก๊งมิจฉาชีพ “รวยเอาๆ”
บริษัทจดทะเบียนแห่งใดบ้างที่ผู้ถือหุ้นถูกปล้น โดยใช้กลไกการเพิ่มทุนเป็นใบเบิกทาง คงไม่อาจระบุชื่อบริษัทที่ชัดเจนได้
แต่สามารถระบุพฤติการณ์ที่ที่เป็นข้อสังเกตได้คือ บริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มทุนถี่ยิบ ซื้อทรัพย์สินต่อเนื่อง เสียหายจากการลงทุนซ้ำซาก ผลประกอบการขาดทุนแทบทุกปี และมักเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็ก เป็นหุ้นร้อน โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นมีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อย
บริษัทจดทะเบียนที่มีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อย เป็นโอกาสที่แก๊งมิจฉาชีพจะเข้าไปสร้างฐานที่มั่น เพราะเพียงแค่มีหุ้นอยู่ในมือเล็กน้อย แต่สามารถคุมอำนาจบริหารได้เบ็ดเสร็จ โดยส่ง”นอมินี”หรือตัวแทนเข้าไปนั่งเป็นกรรมการ เพื่อกำหนดแผนสูบเงินออกเท่านั้น
บริษัท โทริเซนไทย จำกัด(มหาชน)หรือหุ้น "ทีทีเอ" เคยตกอยู่ในสภาพที่ไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่มาแล้ว โดยผู้ที่คุมอำนาจบริหารเด็ดขาด มีหุ้นอยู่ในมือไม่เท่าไหร่ แต่คุมอำนาจบริหารอยู่หลายปีจนรวยอู้ฟู่
ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นมีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งหลายบริษัทถูกยึดครองโดยนักลงทุน”ขาใหญ่”หลายกลุ่ม
แต่ละกลุ่มที่เข้าไปยึดครอง ไม่ได้เข้าไปมือเปล่า แต่หิวเครื่องสูบน้ำเข้าไปด้วย และใช้ปลั๊กไฟของตลาดหลักทรัพย์ เสียบไฟสูบเงินออกจากตลาดหุ้น
ทุกกลุ่มแย่งชิงกันสูบเงิน เหมือนกลัวเงินจะหมดตลาดหุ้น ปรากฏการณ์การเพิ่มทุนจึงเกิดขึ้นเหมือนมหกรรม ประกาศเพิ่มทุนกันฝุ่นตลบ บางบริษัทเพิ่มทุนนับสิบครั้งในช่วงเวลา 3 ปี
เพิ่มทุนโดยไม่ต้องอายใคร เพิ่มทุนแล้วขนเงินไปซื้อทรัพย์สินในราคาที่แพงยับ ไม่ต้องกลัวใครจะเอาเรื่อง ปล่อยกู้บริษัทในเครือจนเกิดหนี้เสีย ไม่ต้องสนใจว่าใครจะฟ้องร้อง ผลดำเนินงานขาดทุนแล้วขาดทุนอีก ไม่ต้องกังวลว่าผู้ถือหุ้นจะโวย
การปล้นเงินจากตลาดหุ้นดำเนินมาอย่างราบรื่นในช่วงหลายปี และทุกวันนี้ยังปล้นกันอยู่
การเพิ่มทุนทำกันสองรูปแบบคือ การเพิ่มทุนขายบุคคลในวงจำกัด(พีพี) หรือการเพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม(อาร์โอ) โดยถ้าสามารถขายบุคคลในวงจำกัดได้ก็จะขาย
แต่หลอกล่อบุคคลในวงจำกัดให้ตกเป็นเหยื่อไม่ได้ ก็จะหันมาสูบเลือดจากผู้ถือหุ้นเดิม เพราะผู้ถือหุ้นเดิมเหมือนหมูในอวย
ถ้าบริษัทเพิ่มทุน ขายในราคาที่ไม่สูงเกินไป ผู้ถือหุ้นรายย่อยมักรักษาสิทธิ ยอมควักเงินเพิ่มทุน ส่วนบางบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นตัวเป็นตน ผู้ถือหุ้นใหญ่มักสละสิทธิ ปล่อยให้รายย่อยใส่เงินแต่ฝ่ายเดียว
การเพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม ใช้หลักจิตวิทยาเหมือนคนเล่นการพนัน โดยนักการพนันเมื่อเสียแล้ว อยากตามทุนคืน จึงพยายามหาเงินมาเล่นต่อ
การเล่นหุ้นก็ไม่แตกต่างกัน โดยเมื่อซื้อหุ้นตัวแม่ขาดทุนแล้ว เมื่อมีหุ้นใหม่หรือมีหุ้นลูก ขายในราคาต่ำ จึงหวังจะตามทุนคืน โดยดิ้นรนหาเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพราะหวังว่า จะถอนทนจากหุ้นตัวลูก
นักลงทุนอาจติดหุ้นไว้ที่ราคา 10 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานเหลือ 3 บาท แต่เมื่อบริษัทฯประกาศเพิ่มทุน ขายผู้ถือหุ้นเดิมราคา 1 บาท ผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงหวังนำหุ้นใหม่มาเฉลี่ยต้นทุน
แต่เมื่อควักเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนไปแล้ว ไม่นานราคาหุ้นบนกระดานจะปรับตัวลงมาระดับ 1 บาท หรือต่ำกว่า นักลงทุนจึงขาดทุนทั้งหุ้นตัวแม่ และหุ้นตัวลูก
แต่เกมสูบเงินอำมหิตยังไม่จบ เพราะทิ้งช่วงเวลาสักพัก บริษัทฯอาจประกาศเพิ่มทุนอีก นำหุ้นใหม่เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม เพียงแต่ราคาจะลดลงมา สมมุติว่าราคาหุ้นในกระดานเหลือ 50 สตางค์ อาจจะเสนอขายในราคาเพียง 10 สตางค์ เพื่อจูงใจผู้ถือหุ้นรายย่อย
และหากหลวมตัวควักเงินใส่ จะเจ็บอีก เพราะไม่นานราคาหุ้นจะปรับตัวลงต่ำกว่า10 สตางค์
แก๊งวงจรอุบาทว์ในตลาดหุ้น สะกดคำว่าเมตตาปราณีไม่เป็น ไม่รู้จักคำว่าบาปบุญคุณโทษ ไม่สำนึกถึงหายนะของคนอื่น มุ่งแต่กอบโกยความมั่งคั่งให้ตัวเองเท่านั้น
เงินที่ปล้นมาจากตลาดหุ้น จะนำไปสร้างเครือข่าย ขยายอิทธิพล สะสมบริวาร
แก๊งมิจฉาชีพในตลาดหุ้น สร้างความเสียหายให้นักลงทุนนับแสนๆคนแล้ว
นักลงทุนที่ต้องเสียหายจากการปล้นกลางตลาดหุ้นเป็นใครกันบ้าง ฉบับพรุ่งนี้มีคำเฉลย