กระทรวงการคลัง แจงความพร้อมในการเปิดรับลงทะเบียนคนจนตามโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบรายได้จากฐานข้อมูลการชำระภาษีจากกรมสรรพากร และตรวจสอบความถูกต้องในเงื่อนไขการเป็นเจ้าของบ้านพร้อมที่ดินตามขนาดพื้นที่ที่ ก.คลัง ได้กำหนดโดยกรมที่ดินจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.60 เพื่อให้ ก.คลัง ประกาศรายชื่อผู้ที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการจากรัฐ
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความพร้อมของหน่วยงานรับลงทะเบียนและหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.60 ว่า ธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งที่รับลงทะเบียน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำระบบรองรับการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ และทำการทดสอบระบบการอ่านข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนความพร้อมของคลังจังหวัด 76 จังหวัด สังกัดกรมบัญชีกลาง ซึ่งได้จัดการประชุม Conference สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง ได้ทำการติดตั้งให้นั้น การทดสอบได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และพร้อมรับลงทะเบียน
นอกจากนี้ คลังจังหวัดทั่วประเทศยังได้เร่งประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านสื่อวิทยุในท้องถิ่น และการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์ม และการลงทะเบียน และยังมีการจัดประชุมเจ้าหน้าที่คลังจังหวัด เพื่อซักซ้อมความเข้าใจก่อนเปิดบริการประชาชนให้มาลงทะเบียนอีกด้วย
ขณะที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต ได้ทำการติดตั้งระบบการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง เรียบร้อยแล้ว ส่วนของหน่วยงานรัฐอยู่ระหว่างการทดสอบความพร้อมของระบบ แต่คาดว่าจะใช้งานได้ทันการเปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 3 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ก่อนถึงวันเปิดลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนสามารถศึกษาแบบฟอร์ม และคู่มือการลงทะเบียนได้ในเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) www.fpo.go.th ในวันลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ในการลงทะเบียน และหลังจากปิดโครงการฯ กระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบรายชื่อในระบบการลงทะเบียนในวันที่ 22 พ.ค.60 ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th โดยการกรอกเลขประจำตัวประชาชน หรือสามารถตรวจสอบได้ที่สายด่วนของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร.1359 ในเวลาราชการ และหากไม่ปรากฏชื่อของตนแล้ว ให้รีบติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียน ณ สาขาที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ภายในวันที่ 2 มิ.ย.60
ด้านความพร้อมของหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล สัญชาติ อายุ เป็นต้น จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง โดยกรมการปกครองจะทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์หลังจากกระทรวงการคลังส่งข้อมูลให้แล้ว
สำหรับความพร้อมในการตรวจสอบเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ของผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญธนาคารพาณิชย์ไทย จำนวน 15 ธนาคารมาร่วมหารือ และได้ข้อสรุปว่า จะตรวจบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และฝากประจำ ทั้งบัญชีเดี่ยว และบัญชีร่วม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.60
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขสถานะทางการเงินของผู้ที่จะเข้าลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการจากรัฐได้นั้น จะต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
ส่วนการตรวจสอบรายได้จากฐานข้อมูลการชำระภาษีของกรมสรรพากรนั้น จะมีการตรวจสอบรอบแรกสำหรับผู้ที่ยื่นแบบชำระภาษีทางอินเทอร์เน็ต และรอบสองสำหรับผู้ที่ยื่นแบบชำระภาษีเป็นกระดาษ โดยการตรวจสอบความถูกต้องจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.60 เช่นเดียวกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเงื่อนไขการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โดยสำนักงานที่ดินสังกัดกรมที่ดิน จะทำการตรวจสอบที่ดินในภูมิลำเนาของผู้ลงทะเบียน ณ วันที่กระทรวงการคลังส่งข้อมูลให้ และจะทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.60
กระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมในเรื่องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย หรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขดังนี้ ในกรณีที่เป็นเจ้าของบ้านพร้อมที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวนั้น ในกรณีที่เป็นบ้าน หรือทาวน์เฮาส์ ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และในกรณีที่เป็นห้องชุดจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร แต่ในกรณีที่เป็นที่อยู่อาศัย และมีการใช้ประโยชน์จากที่ดินด้วยแล้ว กระทรวงการคลังได้กำหนดให้ในกรณีการใช้ประโยชน์บนที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือใช้ประโยชน์เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรแล้ว จะต้องมีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. และจะประกาศรายชื่อผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th และ ณ ที่ทำการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบันที่ผู้ลงทะเบียนกรอกไว้ในแบบฟอร์ม และจะเป็นที่อยู่ที่จะจัดส่งบัตรสวัสดิการต่อไป
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความพร้อมของหน่วยงานรับลงทะเบียนและหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.60 ว่า ธนาคารรัฐทั้ง 3 แห่งที่รับลงทะเบียน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำระบบรองรับการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ และทำการทดสอบระบบการอ่านข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนความพร้อมของคลังจังหวัด 76 จังหวัด สังกัดกรมบัญชีกลาง ซึ่งได้จัดการประชุม Conference สำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง ได้ทำการติดตั้งให้นั้น การทดสอบได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และพร้อมรับลงทะเบียน
นอกจากนี้ คลังจังหวัดทั่วประเทศยังได้เร่งประชาสัมพันธ์โครงการฯ ผ่านสื่อวิทยุในท้องถิ่น และการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์ม และการลงทะเบียน และยังมีการจัดประชุมเจ้าหน้าที่คลังจังหวัด เพื่อซักซ้อมความเข้าใจก่อนเปิดบริการประชาชนให้มาลงทะเบียนอีกด้วย
ขณะที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต ได้ทำการติดตั้งระบบการลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง เรียบร้อยแล้ว ส่วนของหน่วยงานรัฐอยู่ระหว่างการทดสอบความพร้อมของระบบ แต่คาดว่าจะใช้งานได้ทันการเปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 3 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ก่อนถึงวันเปิดลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนสามารถศึกษาแบบฟอร์ม และคู่มือการลงทะเบียนได้ในเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) www.fpo.go.th ในวันลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ในการลงทะเบียน และหลังจากปิดโครงการฯ กระทรวงการคลังจะเปิดให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบรายชื่อในระบบการลงทะเบียนในวันที่ 22 พ.ค.60 ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th โดยการกรอกเลขประจำตัวประชาชน หรือสามารถตรวจสอบได้ที่สายด่วนของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร.1359 ในเวลาราชการ และหากไม่ปรากฏชื่อของตนแล้ว ให้รีบติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียน ณ สาขาที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ภายในวันที่ 2 มิ.ย.60
ด้านความพร้อมของหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล สัญชาติ อายุ เป็นต้น จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง โดยกรมการปกครองจะทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์หลังจากกระทรวงการคลังส่งข้อมูลให้แล้ว
สำหรับความพร้อมในการตรวจสอบเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ของผู้ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เชิญธนาคารพาณิชย์ไทย จำนวน 15 ธนาคารมาร่วมหารือ และได้ข้อสรุปว่า จะตรวจบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และฝากประจำ ทั้งบัญชีเดี่ยว และบัญชีร่วม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.60
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมถึงเงื่อนไขสถานะทางการเงินของผู้ที่จะเข้าลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการจากรัฐได้นั้น จะต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังกล่าว จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
ส่วนการตรวจสอบรายได้จากฐานข้อมูลการชำระภาษีของกรมสรรพากรนั้น จะมีการตรวจสอบรอบแรกสำหรับผู้ที่ยื่นแบบชำระภาษีทางอินเทอร์เน็ต และรอบสองสำหรับผู้ที่ยื่นแบบชำระภาษีเป็นกระดาษ โดยการตรวจสอบความถูกต้องจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.60 เช่นเดียวกับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเงื่อนไขการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โดยสำนักงานที่ดินสังกัดกรมที่ดิน จะทำการตรวจสอบที่ดินในภูมิลำเนาของผู้ลงทะเบียน ณ วันที่กระทรวงการคลังส่งข้อมูลให้ และจะทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.60
กระทรวงการคลังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมในเรื่องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย หรือถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดังกล่าว จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขดังนี้ ในกรณีที่เป็นเจ้าของบ้านพร้อมที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวนั้น ในกรณีที่เป็นบ้าน หรือทาวน์เฮาส์ ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และในกรณีที่เป็นห้องชุดจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร แต่ในกรณีที่เป็นที่อยู่อาศัย และมีการใช้ประโยชน์จากที่ดินด้วยแล้ว กระทรวงการคลังได้กำหนดให้ในกรณีการใช้ประโยชน์บนที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือใช้ประโยชน์เพื่อการอื่นที่ไม่ใช่การเกษตรแล้ว จะต้องมีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. และจะประกาศรายชื่อผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th และ ณ ที่ทำการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบันที่ผู้ลงทะเบียนกรอกไว้ในแบบฟอร์ม และจะเป็นที่อยู่ที่จะจัดส่งบัตรสวัสดิการต่อไป