บริษัท อีสต์ โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF มีหนังสือแจ้งผลการติดตามรายการเงินให้กู้ยืมระยะสั้นวงเงิน 50 ล้านบาท แก่บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ว่า IFEC ส่งจดหมายขอขยายระยะเวลาคืนเงินตามสัญญาจากเดิม 90 วัน แก้ไขเป็น 150 วัน นับแต่วันที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน
พร้อมชี้แจงว่า IFEC นั้น ยังคงดำเนินการเข้าตรวจสอบฐานะกิจการ (Due Diligence) เพื่อประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของบริษัท ทรู เอ็นเนอร์ยี่ เพาเวอร์ ลพบุรี จำกัด (TRUE-P) อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ECF ระบุว่า วางเงินมัดจำ 50 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 7.5 เมกะวัตต์ (MW) ใน จ.ลพบุรี ซึ่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของกลุ่ม IFEC ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเข้าลงทุนไม่เกินไตรมาส 2/60 ซึ่งหากผลการศึกษาเป็นที่น่าพอใจ เงินมัดจำดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของราคาซื้อขาย แต่หากไม่เป็นที่น่าพอใจ IFEC จะต้องคืนเงินมัดจำดังกล่าว
แต่เนื่องจากขณะนั้น ทาง IFEC ต้องการเงินจำนวน 50 ล้านบาท จึงขอให้บริษัทจัดทำสัญญาในรูปแบบเงินกู้ยืมระยะสั้นไม่เกิน 90 วันขึ้นมาระหว่าง IFEC และ ECF คิดอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี โดยเสนอหลักประกัน คือ หุ้นที่ IFEC ถืออยู่ในบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (IFEC-T) จำนวน 5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.3% มาจำนำ และให้ระบุไว้ในเงื่อนไขสัญญาว่า สามารถใช้แทนการวางเงินมัดจำตามสัญญาได้ ขณะที่ IFEC-T ถือหุ้นใน TRUE-P จำนวน 99.99%
พร้อมชี้แจงว่า IFEC นั้น ยังคงดำเนินการเข้าตรวจสอบฐานะกิจการ (Due Diligence) เพื่อประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลของบริษัท ทรู เอ็นเนอร์ยี่ เพาเวอร์ ลพบุรี จำกัด (TRUE-P) อย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ECF ระบุว่า วางเงินมัดจำ 50 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 7.5 เมกะวัตต์ (MW) ใน จ.ลพบุรี ซึ่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของกลุ่ม IFEC ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเข้าลงทุนไม่เกินไตรมาส 2/60 ซึ่งหากผลการศึกษาเป็นที่น่าพอใจ เงินมัดจำดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของราคาซื้อขาย แต่หากไม่เป็นที่น่าพอใจ IFEC จะต้องคืนเงินมัดจำดังกล่าว
แต่เนื่องจากขณะนั้น ทาง IFEC ต้องการเงินจำนวน 50 ล้านบาท จึงขอให้บริษัทจัดทำสัญญาในรูปแบบเงินกู้ยืมระยะสั้นไม่เกิน 90 วันขึ้นมาระหว่าง IFEC และ ECF คิดอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี โดยเสนอหลักประกัน คือ หุ้นที่ IFEC ถืออยู่ในบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (IFEC-T) จำนวน 5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.3% มาจำนำ และให้ระบุไว้ในเงื่อนไขสัญญาว่า สามารถใช้แทนการวางเงินมัดจำตามสัญญาได้ ขณะที่ IFEC-T ถือหุ้นใน TRUE-P จำนวน 99.99%