สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กำลังเตรียมการปรับหลักเกณฑ์จัดสรรหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ ในส่วนของผู้มีอุปการคุณ
ซึ่งเป็นสิ่งดีๆในการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น เพราะการจัดสรรโควตาหุ้นใหม่ให้ผู้มีอุปาการคุณ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ความไม่โปร่งใสมานาน
โดยตามหลักเกณฑ์จะจัดสรรหุ้นให้ผู้มีอุปการคุณไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่กระจายสู่นักลงทุนทั่วไป แต่โดยข้อเท็จจริงมักกระจายเกินโควตา โดยอาจจัดสรรถึง 50% ของหุ้นที่นำมากระจายทั้งหมด
และผู้มีอุปการคุณที่กล่าวอ้าง ไม่ใช่ผู้ที่สร้างประโยชน์ต่อบริษัทอย่างชัดเจนหรือต่อเนื่อง แต่เป็น ”นอมินี” หรือตัวแทนของผู้ถือหุ้นใหญ่
เมื่อจำนวนหุ้นที่กระจายสู่นักลงทุนถูกเบียดบัง โดยนำไปกักตุนไว้ที่ “นอมินี” ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขายจึงมีจำกัด ง่ายต่อการสร้างราคาหุ้น
หุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายในวันแรกๆ ราคาจึงเคลื่อนไหวอย่างหวือหวา สูงกว่าราคาจองหรือราคาหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปนับร้อยเปอร์เซ็นต์
บ่อยครั้งที่หุ้นน้องใหม่ ประเดิมซื้อขายวันแรกในราคาที่สูงกว่าจอง 200% หรือชนเพดานสูงสุดของหุ้นใหม่ที่ซื้อขายวันแรก
ผลตอบแทนจากหุ้นใหม่ ปกติแล้วควรจะอยู่ในระดับประมาณ 30% ของราคาจอง แต่หุ้นใหม่ส่วนใหญ่ ซื้อขายวันแรกมักสูงกว่าราคาจองระดับ 100% ซึ่งถือว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น
ถ้าไม่ผิดปกติจากการกำหนดราคาเสนอขายที่ต่ำเกินจริง ก็เกิดความผิดปกติในการซื้อขาย หรือมีการสร้างราคาหุ้นนั่นเอง
แต่เป็นไปได้หรือที่บริษัทผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรืออินเดอร์ไรเตอร์ จะกำหนดราคาเสนอขายผิด
ดังนั้นหุ้นใหม่ที่ซื้อขายวันแรก โดยที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างโดดโลดเต้น พุ่งลิ่วกันเป็นร้อยหรือสองร้อยเปอร์เซ็นต์ น่าจะเกิดจากการสร้างราคามากกว่า
และใครจะปั่นหุ้นใหม่ได้ ถ้าไม่ใช่เจ้ามือหุ้นใหม่
ก.ล.ต.คงจับตาความเคลื่อนไหวของหุ้นใหม่มาพักใหญ่แล้ว จึงเห็นพฤติกรรมการสร้างราคา เและเข้ามาจัดระเบียบการจัดสรรหุ้นใหม่ เพื่อให้หุ้นกระจายสู่มือนักลงทุนมากขึ้น ป้องกันการกระจายหุ้นที่กระจุกตัวอยู่ในมือนักลงทุนรายใหญ่ ทำให้ปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อย เจ้ามือจึงคุมเกมปั่นราคาหุ้นใหม่ได้เต็มที่
นิยามคำว่า ผู้มีอุปการคุณ ก.ล.ต.จะกำหนดขอบข่ายความหมายให้ชัดเจนว่า เป็นผู้มีอุปการคุณจริงหรือไม่ จะมั่วตั้ง “นอมินี”ตั้งใครขึ้นมาเป็นผู้อุปการคุณ เพื่อจัดสรรโควตาหุ้นให้ไม่ได้แล้ว
สัดส่วนหุ้นที่จัดให้ผู้มีอุปการคุณ จะถูกกำหนดไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นที่นำมากระจายสู่นักลงทุนทั้งหมด ซึ่งน่าจะเหมาะสม และบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายคงชอบใจ เพราะจะมีหุ้นใหม่จัดสรรให้ลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น
การจัดระเบียนการจัดสรรโควตาหุ้นใหม่ให้ผู้มีอุปการคุณ สะท้อนให้เห็นว่า ก.ล.ต.กำลังตื่นตัวกับการแก้ปัญหาพฤติกรรมผิดในตลาดหุ้น
ก.ล.ต.คิดและทำเรื่องดีเป็นเหมือนกัน โดยปีนี้คิดสิ่งดีๆมาแล้วหลายเรื่อง รวมทั้งการตรวจเข้มพฤติกรรมที่เข้าข่ายไม่โปร่งใส ไร้ธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียน
เพียงแต่สิ่งดีๆที่คิดนั้น ยังไม่ได้ถูกผลักดันให้มีผลในทางปฏิบัติเท่าใด ไม่รู้ว่าติดขัดหรือ “ถูกดอง”ไว้ขั้นตอนไหน
การคุมโควตาจัดสรรหุ้นผู้มีอุปการคุณ ถ้าได้แต่คิด แต่ไม่เร่งผลักดันให้มีผลในเชิงปฏิบัติ ก็ไม่เกิดประโยชน์ และหุ้นใหม่คงสร้างราคากันต่อไป อาศัยโควตาหุ้นผู้มีอุปการคุณเป็นกลไกในเกมสร้างราคาหุ้นใหม่ที่ซื้อขายวันแรกๆเหือนที่เคยเป็นมา
ก.ล.ต.รู้ทันเกมหุ้นน้องใหม่แล้ว ต้องเร่งผลักดันมาตรการเพื่อสกัดไม่หุ้นน้องใหม่ แสดงอิทธิฤทธิ์ ปั่นหุ้นตั้งแต่เข้ามาซื้อขายในวันแรก
หุ้นใหม่เข้ามาวันแรกก็ปั่นกันแล้ว ต่อไปจะปั่นกันขนาดไหน รายย่อยที่หลงเข้าไปเล่น ไม่ตายกันหมดหรือ