xs
xsm
sm
md
lg

“โพลาร์”น่าเป็นห่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


       เมื่อต้นสัปดาห์ บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด(มหาชน) หรือ “โพลาร์” ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ชี้แจงข้อมูลที่ถูกสอบถามใน 4 ประเด็นหลัก ซึ่งเชื่อมโยงกับผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะการซื้อทรัพย์สิน
      ประเด็นแรกที่ “โพลาร์”ชี้แจงคือ จำนวนกรรมการ โดยระบุว่าปัจจุบันมีกรรมการ 6 คน ครบถ้วนตามกฎหมาย ส่วนกรณีนายชนัด เผ่าพันธุ์ดี ซึ่งนายทะเบียนบริษัทมหาชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ยังไม่รับจดทะเบียนกรรมการเข้าใหม่นั้น อยู่ระหว่างการโต้แย้งคำสั่งของนายทะเบียน
      คำชี้แจงประเด็นแรกทำให้เกิดข้อสงสัยว่า นายชนัดมีปัญหาคุณสมบัติด้านไหน นายทะเบียนจึงไม่รับจดทะเบียนกรรมการใหม่
     ประเด็นที่สอง กรณีผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้จัดประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่ง “โพลาร์”ชี้แจงว่า หนังสือข้อเรียกร้องของผู้ถือหุ้นให้จัดประชุมผู้ถือหุ้นไม่ชอบตามข้อบังคับ จึงไม่อาจเรียกประชุมผู้ถือหุ้นได้
     คำชี้ประเด็นที่สอง สะท้อนให้เห็นว่า “โพลาร์”กำลังมีคลื่นใต้น้ำ โดยมีความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารบริษัทฯกับผู้ถือหุ้น จึงมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เปิดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเปิดเวทีซักถามถึงการดำเนินงานของคณะกรรมการบริษัท
     ประเด็นที่สาม การชี้แจงค่าเผื่อด้อยค่าเงินมัดจำที่ดินจำนวน 350 ล้านบาท โดย “โพลาร์”ได้วางมัดจำซื้อที่ดินเป็นนวนเงิน350 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559 และต้องจ่ายค่ามัดจำอีก 100 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และจ่ายค่าที่ดินที่เหลืออีก487 ล้านบาท ภายในเดือนมิถุนายน 2560
    หากไม่จ่ายค่ามัดจำ100 ล้านบาทภายในเวลาที่กำหนด สัญญาจะซื้อที่ดินถือเป็นสิ้นสุด โดยฝ่ายบริหารบริษัทได้ประเมินฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทฯแล้ว อาจไม่สามารถหาแหล่งเงินมาชำระค่าที่ดินส่วนที่เหลือรวม 587 ล้านบาทได้ จึงตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าที่ดินทั้งจำนวนนั้น หมายถึงเงินมัดจำ 350 ล้านบาทจะถูกริบกินเปล่า

     สาเหตุที่ไม่มีเงินชำระค้าที่ดินที่จะซื้อ เนื่องจากประสบปัญหาการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพราะไม่สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ และผู้ถือหุ้นไม่ลงคะแนนเสียงอนุมัติการเพิ่มทุน ส่วนการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินและแหล่งเงินกู้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ยังไม่มีสถาบันการเงินใดอนุมัติเงินกู้
     อย่างไรก็ตาม สัญญาซื้อขายที่ดิน ผู้ขายยังไม่ได้บอกเลิกสัญญาหรือริบเงินมัดจำแต่อย่างใด
     ประเด็นที่สาม กรณีไม่มีเงินจ่ายค่ามัดจำและชำระค่าซื้อที่ดินที่เหลือจำนวน 587 ล้านบาทนั้น สะท้อนถึงฐานะทางการเงินอันน่าเป็นห่วงของ “โพลาร์” และฝ่ายบริหารบริษัทฯยังไม่มีแนวทางใดในการแก้ปัญหาฐานะทางการเงินได้
     ประเด็นสุดท้าย การชี้แจงการยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เจ้าของนิตยสาร อะเดย์ เนื่องจากผู้ก่อตั้งและผู้บริหารหลักลาออกจากบริษัท ทำให้การเข้าลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนไม่คุ้ม โดยจะเรียกเงินมัดจำ120 ล้านบาทคืน

     การซื้อบริษัท เดย์ โพเอทส์ ในราคา308 ล้านบาท เคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงราคาที่ “โพลาร์”จะจ่าย เพราะเป็นราคาที่สูงมาก
     การยกเลิกการซื้อบริษัท เดย์ โพเอทส์ จึงน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับผุ้ถือหุ้น แต่จะเรียกเงินมัดจำคืนได้เต็มจำนวนหรือไม่ และจะมีโอกาสถูกริบเหมือนค่ามัดจำซื้อที่ดินจำนวน 350 ล้านบาทหรือไม่

      “โพลาร์”อยู่มาได้ทุกวันนี้ พราะเพิ่มทุนตุนเงินไว้ โดยปี 2557 เพิ่มทุนถึง 8 ครั้ง นำหุ้นใหม่ขายบุคคลในวงจำกัด(พีพี) ปี2558 เพิ่มทุนอีก 3 ครั้ง ขายพีพี2 ครั้ง และขายผู้ถือหุนเดิม 1ครั้ง
      เงินเพิ่มทุนถูกนำไปใช้ซื้อทรัพย์สิน ขยายการลงทุน แต่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง โดยมียอดขาดทุนสะสมทั้งสิ้น 2,082 ล้านบาท
     โครงสร้างผู้ถือหุ้นโพลาร์ ประกอบด้วยผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน11,523 ราย ถือหุ่นรวมกันเกือบ 100% โดยคณะกรรมการบริษัททั้ง 6 คน ไม่มีใครถือหุ้นใหญ่ แต่กลับกุมอำนาจการบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ
    ปัจจุบันหุ้นโพลาร์ถูกขึ้นเครื่องหมายเอสพี พักการซื้อขาย เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินสิ้นสุดงวดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 แต่กลับมาซื้อขายเมื่อไหร่ ราคาคงไม่สดใสนัก
    เพราะอ่านคำแถลงของฝ่ายบริหารบริษัทฯล่าสุดแล้ว เห็นชัดว่า ฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ อยู่ในข่ายที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก
    และในเมื่อบริษัทมีปัญหาฐานะการเงิน การซื้อที่ดินก่อนหน้า ยังไม่มีเงินชำระค่ามัดจำได้ตามกำหนด จนมีแนวโน้มถูกริบเงินมัดจำ 350 ล้านบาท ทำไมคณะกรรมการบริษัทฯยังเดินหน้าซื้อทรัพย์สินอยู่อีก
กำลังโหลดความคิดเห็น