ปัญหาหมักหมมเรื้อรังในบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ”ไอเฟค” ใกล้ปิดฉากเข้ามาทุกทีแล้ว หลังจากผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ตรวจสอบการทุจริตของผู้บริหารบริษัท
นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ “ไอเฟค”และนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ กรรมการ ถูกนายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ “ไอเฟค” ในฐานะกรรมการใหม่ ร้องเรียนการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส เข้าข่ายทุจริต สร้างความเสียหายร้ายแรงให้ผู้ถือหุ้น
แม้จะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แล้ว แต่กรรมการฝ่ายนายทวิชซึ่งมีเสียงข้างมาก ไม่อาจเข้าแก้ปัญหาใดๆของ “ไอเฟค”ได้ เพราะนายแพทย์วิชัยยังคุมอำนาจการบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ
การประชุมคณะกรรมการบริหารชุดใหม่นัดแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ต้องล้มไม่เป็นท่า เพราะกรรมการฝ่ายนายทวิช ถูกจำกัดบทบาท จนต้อง “วอล์คเอ้าท์”จากที่ประชุม
นายทวิชให้โอกาสนายแพทย์วิชัยแล้ว แต่นายแพทย์วิชัยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง ไม่ยอมเปิดโอกาสให้กรรมการชุดใหม่มีส่วนร่วมในการแก้วิกฤต “ไอเฟค”
นายทวิชจึงเหลืออด ยื่นเรื่องให้ก.ล.ต.เข้ามาจัดการนายแพทย์วิชัย เพราะถ้าปล่อยให้ปัญหาภายในบริษัทเรื้อรัง ปัญหาผิดนัดชำระหนี้คาราคาซัง ฐานะทางการเงินมีปัญหายืดเยื้อ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกบั่นทอนอย่างต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นจำนวน 27,861 รายจะได้รับความเสียหายหนักขึ้น
ทุกวันนี้เสียหายหนักอยู่แล้ว ราคาหุ้นทรุด และยังถูกพักการซื้อขาย แถมผู้ถือหุ้นยังไม่รู้ว่า ชะตากรรมของ “ไอเฟค”จะเป็นอย่างไร
การที่นายแพทย์วิชัยไม่ยอมแสดงสปิริต ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ไม่เปิดทางให้กรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัว ทำให้ยิ่งต้องสงสัยว่า เหตุใดนายแพทย์วิชัยจึงไม่ลงจากตำแหน่ง
มีอะไรซุกอยู่ใต้พรมหรือไม่
หนังสือร้องเรียนให้ก.ล.ต.ตรวจสอบการบริหารงานของนายแพทย์วิชัยนั้น นายทวิชตั้งไว้ 5 ประเด็น แต่ละประเด็นเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ทั้งการสร้างความเสียหายให้บริษัท การแจ้งข้อมูลเท็จและการทุจริต
ก.ล.ต.มีช่องทางที่จะเข้าไปสะสางปัญหาใน “ไอเฟค”แล้ว เพราะมีเจ้าทุกข์ที่ได้รับความเสียหายร้องเรียน จึงต้องเร่งสอบสวนความผิดนายแพทย์วิชัยทันที
เพราะแก้ปัญหา ”ไอเฟค” ได้เร็วเท่าใด ผู้ถือหุ้นจะได้รับการบรรเทาทุกข์เร็วเท่านั้น
ถ้าปล่อยให้นายแพทย์วิชัยนั่งขวางทางคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ต่อไป จะไม่เห็นโอกาสใดๆในการแก้ปัญหา ผู้ถือหุ้นทั้งหมดคงอยู่ในสภาพรอวันตาย
การร้องให้ก.ล.ต.สอบนายแพทย์วิชัย เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งแก้ปัญหา “ไอเฟค”
แต่ถ้านายทวิชไม่ยื่นหนังสือร้องเรียนนายแพทย์วิชัย คำถามคือ ใครจะแก้ปัญหา “ไอเฟค” ใครจะเช็ดเลือดและซับน้ำตาให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย จะปล่อยให้ “ไอเฟค” พังคามือนายแพทย์วิชัยหรือไม่
“ไอเฟค” ฉาวโฉ่มาพักใหญ่แล้ว ฝ่ายบริหารบริษัทมีพฤติกรรมเข้าข่ายการทุจริต แต่ที่ผ่านมาทำไมก.ล.ต.จึงนั่งดูดาย
ทำไมก.ล.ต.หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่เข้ามาตรวจสอบโดยทันที
ทำไมต้องรอให้ผู้ถือหุ้นร้องเรียน จะต้องรอให้ “ไอเฟค”พัง จะต้องรอให้ผู้ถือหุ้นตายกันหมดก่อนใช่ไหม
ผู้บริหารก.ล.ต. คณะกรรมการบริหารตลาดหลักทรัพย์ ต้องทบทวนบทบาทบ้างแล้ว เพราะถ้ากลัวแดดกลัวฝน ทำงานในลักษณะตั้งรับ อาศัยกฎระเบียบเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ยึดข้ออ้างต้องทำงานตามกรอบ สังคมจะเรียกหาความรับผิดชอบการปกป้องคุ้มครองผู้ลงทุนได้จากใคร
วิกฤตหุ้น “ไอเฟค” ไม่ควรถูกปล่อยให้ยืดเยื้อเรื้อรังมาจนถึงวันนี้ ถ้าผู้บริหารก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ตระหนักถึงความเสียหายของประชาชนผู้ลงทุนสักหน่อย