xs
xsm
sm
md
lg

“สิทธิชัย” ฟ้องอาญา “หมอวิชัย” พ่วง IFEC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“สิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์” อดีตซีอีโอ IFEC ฟ้องคดีอาญา “หมอวิชัย พ่วง IFEC” ฐานฟ้องเท็จแจ้งความเท็จใน 2 คดี “ขายที่ดินบ้านโพธิ์-ซื้อโรงแรมดาราเทวี” พ่วงฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท ระบุถูกสาดโคลนมาโดยตลอดทั้งๆ ที่ลาออกมาแล้วกว่า 4 เดือน แต่กลายเป็น “แพะ” ในทุกๆ เรื่อง ยันที่ดินที่โอนให้ผู้ซื้อทำตามมติบอร์ด และสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่หมอวิชัยเป็นคนเซ็นสัญญา ส่วนโรงแรมดาราเทวี ก็ซื้อได้ในราคาถูก วอนหยุดเล่นเกม จับรายย่อยเป็นตัวประกัน “พังบ้าน” หลังนี้ได้แล้ว ชี้ทางรอด IFEC ต้องเร่งเคลียร์หนี้ ส่งแผนธุรกิจให้ ตลท.-ก.ล.ต.พิจารณา ปิดงบให้ได้ เพื่อปลดแอกจากการถูกแขวน SP ถามกลับ “นั่งทับอะไรอยู่” จึงไม่ยอมลงจากตำแหน่ง

นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องคดีอาญากับ นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC และ IFEC ในความผิดฐานฟ้องเท็จ และแจ้งความเท็จใน 2 คดี คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งกล่าวหาว่า ตนเอาที่ดินของบริษัทฯ ยกให้ผู้ซื้อฟรี เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์ใน IFEC ทั้งๆ ที่การโอนที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกของที่ดินที่บริษัทฯ ขายให้ผู้ซื้อไปก่อนหน้าแล้ว เป็นเงื่อนไขในการขายที่ดิน ตน และกรรมการบริหารทุกคนทำตามมติบอร์ด และสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินที่

นายแพทย์วิชัย เป็นคนลงชื่อขายด้วย ส่วนเหตุที่ต้องโอนที่ดินให้ผู้ซื้อภายหลัง เพราะเพิ่งแบ่งแยกโฉนดเสร็จหลังจากได้รับเงินค่าขายที่ดินและโอนที่ดินไปให้ผู้ซื้อก่อนแล้ว โดยศาลจังหวัดฉะเชิงเทรารับฟังเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1313/2560 นัดไต่สวนมูลฟ้อง 14 มิถุนายน 2560 และคดีที่ 2 คือ กรณีที่กล่าวหาว่า ตนซื้อโรงแรมดาราเทวี มาในราคาที่แพงเกินจริง ทั้งๆ ที่การซื้อโรงแรมผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบริษัทที่นายแพทย์วิชัย เป็นผู้มอบหมาย และที่สำคัญกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ผ่านการพิจารณาของบอร์ด มีการรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ และเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ โดยศาลอาญากรุงเทพใต้รับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 956/2560 นัดไต่สวนมูลฟ้อง 19 มิถุนายน 2560

“ถ้าบอกว่า ซื้อโรงแรมดาราเทวี ในราคาที่แพงเกินจริง แล้วตอนนี้นายแพทย์วิชัย บอกว่า มีพันธมิตรจากจีน 2-3 ราย สนใจเข้ามาติดต่อซื้อโรงแรมมูลค่า 5-6 พันล้านบาท จนถึงขั้นมีการเซ็น เอ็ม.โอ.ยู.ส่วนตัวแล้ว ซึ่งถ้าขายได้จริง IFEC จะมีกำไรจากการซื้อโรงแรมมาแล้วขายไปมากกว่าพันล้านบาท แล้วอย่างนี้ถือว่าซื้อมาในราคาที่แพงกว่าความจริงอย่างที่นายแพทย์วิชัย กล่าวหาผมได้อย่างไร” นายสิทธิชัย กล่าว นอกจากฟ้องคดีอาญาทั้งสองเรื่องแล้ว ยังเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท อีกทางหนึ่งด้วย

“ผมจำเป็นต้องฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีอาญา และคดีแพ่ง กับนายแพทย์วิชัย เพราะที่ผ่านมา ได้อาศัยความเป็นประธานกรรมการบริษัท IFEC ใหข้อมูลกล่าวร้ายผมมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่ผมได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร IFEC มาเป็นเวลากว่า 4 เดือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี การปิดงบปี 2559 ไม่ได้ ซึ่งผมต้องการบอกความจริงให้สังคมได้รับรู้ว่า สิ่งที่นายแพทย์วิชัย กล่าวอ้างไม่เป็นความจริง ผมจึงได้ฟ้องต่อศาลเพื่อให้ดำเนินคดีฐานฟ้องเท็จ ซึ่งนอกเหนือจาก 2 คดีนี้แล้ว ยังมีอีกหลายคดีที่ผมเตรียมยื่นฟ้อง ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และเอกสารต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีความยากลำบากในการรวบรวมเอกสาร เนื่องจากมีการขัดขวางของชายชุดดำที่นายแพทย์วิชัย จ้างมา เพื่อตรวจสอบคนเข้าออกใน IFEC” นายสิทธิชัย กล่าว

นายสิทธิชัย กล่าวว่า ตลอดเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา แทนที่นายแพทย์วิชัย จะทุ่มเวลาทำงานในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ที่ต้องรับผิดชอบการบริหารงาน กลับเสียเวลาไปกับการออกมากล่าวหากลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ไม่ควรเล่นเกมอยู่แบบนี้ มีแต่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ไม่รู้เหมือนกันว่า การที่นายแพทย์วิชัย ไม่ยอมลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เป็นเพราะนั่งทับอะไรอยู่ จึงต้องขัดขวางการเข้ามาทำงาน หรือการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปิดงบการเงินปี 2559 ได้ตามกำหนด

“โจทย์ใหญ่ที่ผู้บริหารชุดใหม่ IFEC ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ การแก้ปัญหาหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้ ที่มีอยู่หลายพันล้านบาทในขณะนี้ ซึ่งบางส่วนมีความจำเป็นต้องเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป เพื่อที่จะทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และเร่งปิดบัญชีงบการเงินในปี 2559 ให้ได้ พร้อมกับต้องเร่งส่งแผนดำเนินธุรกิจไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอให้มีปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว หรือ SP แล้วเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้กับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง” นายสิทธิชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น