คลังสั่ง ก.ล.ต.แก้ พ.ร.บ. 3 ประเด็น “การปลดล็อกบริษัทจดทะเบียนที่มีความขัดแย้งกันจนองค์กรเสียหาย และราคาหุ้นร่วงลงแรง, การเพิ่มรายละเอียดบทลงโทษเลขาธิการ ก.ล.ต. และกรรมการ ก.ล.ต. กรณีที่มีความผิดเอง และให้ ก.ล.ต.รายงานความคืบหน้า และทางการพัฒนาตลาดทุนระยะ 3 ปีต่อกระทรวงการคลังเหมือนธนาคารแห่งประเทศไทย
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยความคืบหน้าในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ... ว่า ขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปที่กระทรวงการคลัง และผ่านการพิจารณาแล้วกว่า 90% แต่มีเพียง 3 ประเด็นที่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้แก้ไขเพิ่มเติมในรายละเอียด คือ การปลดล็อกบริษัทจดทะเบียนที่มีความขัดแย้งกันจนองค์กรเสียหาย และราคาหุ้นร่วงลงแรง, การเพิ่มรายละเอียดบทลงโทษเลขาธิการ ก.ล.ต. และกรรมการ ก.ล.ต. กรณีที่มีความผิดเอง, และให้ ก.ล.ต.รายงานความคืบหน้า และทิศทางการพัฒนาตลาดทุนระยะ 3 ปีต่อกระทรวงการคลังเหมือนกับธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับการปลดล็อกบริษัทจดทะเบียนที่ผู้บริหารทะเลาะกันจนทำให้บริษัทได้รับความเสียหายนั้น ทาง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการขอความคิดเห็นจากกลุ่มต่างๆ ว่า จะดำเนินการอย่างไรโดยเฉพาะประเด็นที่จะให้ ก.ล.ต.มีอำนาจในการปลดผู้บริหาร หรือกรรมการในกรณีที่มีความขัดแย้งกันจนไม่สามารถประชุมผู้ถือหุ้นได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น อาจระบุในตัว พ.ร.บ.ให้อำนาจ ก.ล.ต.สามารถขออำนาจศาลแพ่ง เพื่อสั่งให้บริษัทเปิดการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่ หรืออาจเป็นผู้บริหารชุดเดิมก็ไม่ได้
“ก.ล.ต.อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะสามารถปลดผู้บริหารเองได้เลยหรือไม่ หรือจะขออำนาจศาล เพื่อสั่งให้เปิดการประชุมผู้ถือหุ้น โดยยังไม่ปลดผู้บริหาร ซึ่งส่วนตัวให้น้ำหนักกับการขออำนาจศาลมากกว่า ทั้งนี้ หากมีการประชุมผู้ถือหุ้นเกิดขึ้นจริง ผู้ถือหุ้นก็ต้องเลือกข้าง และพิจารณาให้ดี เพราะอำนาจที่แท้จริงในการดูแลบริษัทคือผู้ถือหุ้น”