xs
xsm
sm
md
lg

HTECH รับอานิสงส์ตลาดฮาร์ดดิสก์พุ่งปีนี้โตเฉียด 10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ เชื่อผลงานปี 60 สดใสหลังภาพรวมตลาดชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์โตแรง คำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ไหลเข้ามาในไทยอื้อ เร่งผุดโรงงานใหม่คาดแล้วเสร็จภายไตรมาส 3 ปีนี้ และทยอยติดตั้งเครื่องจักรที่ทันสมัยกว่าเดิมรองรับสินค้าประเภท High-end ที่มีอัตรากำไรสูง รองรับความต้องการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มฮาร์ดดิสก์และยานยนต์ ส่วนโรงงานใหม่ที่เวียดนาม เริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 2/60 ผู้บริหารเผยปัจจัยพื้นฐานแกร่งดันผลปีนี้รายได้โตต่อเนื่อง 8-10% หวังกำไรพีกต่อจากปีก่อนหน้า คาดย้ายเข้าเทรดในกระดาน SET ไตรมาส 2 ปีนี้

นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปี 2560 จะเป็นอีกปีที่ HTECH สามารถทำนิวไฮตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตต่อเนื่องอีก 8-10% จากปีก่อน มุ่งมั่นรักษากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ดี สอดคล้องกับการขยายกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าขยายตลาดควบคู่การบริการที่ครบวงจร พัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะงานผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่กำลังเติบโตแรง และมีความต้องการไหลเข้ามาในประเทศไทยต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ เห็นสัญญาณการเติบโตมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว จากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้ารายใหญ่ และมีคำสั่งซื้อ Cutting Tools

สำหรับผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้กำลังการผลิตของบริษัทฯ ไม่เพียงพอในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างโรงงานแห่งใหม่ ตามแผนคาดว่า จะแล้วเสร็จไตรมาส 3/2560 เพื่อใช้เป็นโรงงาน และสำนักงาน ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัทในปัจจุบัน พร้อมลงทุนซื้อเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม เพื่อเน้นไลน์ผลิตสินค้าประเภท High-end ที่มีมาร์จินสูงเป็นหลัก จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 6 เครื่อง เริ่มผลิตสินค้าไปแล้ว 4 เครื่อง อีก 2 เครื่องอยู่ระหว่างติดตั้ง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในภายในเดือนนี้ และอยู่ระหว่างสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 2 เครื่อง ทยอยติดตั้งเดือนกรกฎาคมนี้ คาดภายในไตรมาส 4/2560 จะสามารถเริ่มผลิต และรับรู้รายได้ทันที โดยประมาณการกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะสามารถเพิ่มยอดขายโดยรวมเฉพาะส่วนของบริษัทใหญ่ได้อีก 10-15% จากรายได้บริษัทใหญ่ในปี 2559 นอกจากนี้ คาดว่าจะช่วยให้อัตรากำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น จากความสามารถในการทำกำไรของสินค้าประเภท High-end สูงกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าปัจจุบัน

ขณะที่สินค้า High-end ใช้ได้กับทั้งลูกค้าปัจจุบันในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Automotive) รวมไปถึงลูกค้าใหม่ๆ ในส่วนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องบิน (Aerospace) สนับสนุนให้ประหยัดเวลา และต้นทุนในการผลิตให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันของสินค้าบริษัทฯ

ส่วนความคืบหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) ที่เวียดนาม คาดจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 2/2560 ตามแผนที่วางไว้ โดยจะเป็นผู้ผลิต PCD Cutting Tools รายแรกในประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับลูกค้าหลักในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

“HTECH เป็นผู้นำตลาดเครื่องมือตัดเฉือนโลหะที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ เรามีโรงงานผลิตในประเทศไทย และประเทศฟิลิปปินส์ มีบริษัทย่อยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายใน 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ไทย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย ในฐานะผู้บริหาร และทีมงานมีความมุ่งมั่นในการผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าเชื่อมั่นว่า การลงทุนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขยายตลาดใหม่ สร้างสินค้านวัตกรรมใหม่ รองรับตลาดอุตสาหกรรมที่เราเชื่อว่า กำลังมาแน่ๆ โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ที่โตแรงมาก รวมทั้งตลาดยานยนต์ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามารออยู่แล้ว จะสนับสนุนให้ผลงานปีนี้เป็นอีกปีที่ดีของเรา โดยเฉพาะการย้ายเข้าเทรดในกระดาน SET ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในไตรมาส 2 นี้ เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นของบริษัทฯ เป็นที่สนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ทั้งกลุ่มกองทุน สถาบัน ทั้งใน และต่างประเทศ” นายพีท กล่าว
 
สำหรับผลประกอบการ HTECH งวดปี 2559 ที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างโดดเด่น บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 142.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 75.24% จากกำไรสุทธิ 81.26 ล้านบาทในปี 2558 อัตรากำไรสุทธิที่พุ่งขึ้นแตะ 17.24% จากหลายปีก่อนหน้าทำได้ราว 11% เนื่องจากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นจากเครื่องจักรใหม่ การลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการขายสินค้าที่มีมาร์จินสูง ประเภทสินค้า High-end เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 826.20 ล้านบาท จากรายได้ 724.33 ล้านบาทในปี 2558  

ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 12 พฤษภาคม 2560 และจ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น