อธิบดีธนารักษ์ ระบุการประเมินราคาที่ดินที่เหลืออีก 15 ล้านแปลง เสร็จสิ้นในปี 60 คาดรัฐจะเก็บภาษีซื้อขายอสังหาริมรัพย์ได้ราว 30,000-50,000 ล้านบาทหาก พ.ร.บ.ภาษีและสิ่งปลูกสร้าง มีผลังคับใช้จริงในปี 62
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ว่า ปัจจุบันได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้ว 17 ล้านแปลงจากจำนวนที่ดินทั้งหมดที่มี 32 ล้านแปลง และคาดว่าในสิ้นปี 60 กรมธนารักษ์จะทำการประเมินได้จนครบทั้งหมด
ส่วนการประกาศเลื่อนการบังคับใช้จริงของ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากปี 2561 ไปเป็นปี 2562 นั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังไม่มั่นใจว่า จะเป็นการเลื่อนระยะเวลาเพื่อให้เจ้าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างสามารถปรับตัวได้อีก 1 ปีก่อนที่การเก็บภาษีจริงจะเริ่มเกิดขึ้นใน 2562 หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม นายจักรกฤศฏิ์ เชื่อว่า หลังกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้จริงแล้ว รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีที่เกิดจากการขายอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในพื้นที่ที่อยู่รอบกรุงเทพฯ ซึ่งกรมธนารักษ์ ได้ทำการประเมินภาษีแล้วประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาท แต่จะไม่มีผลกระทบกับรายได้ที่เป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ เนื่องจากรายได้ส่วนนี้จะเป็นไปตามอัตราใหม่ที่กรมธนารักษ์ ได้ประกาศใช้
อย่างไรก็ตาม นายจักรกฤศฏิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการวางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อรองรับการประเมินราคาที่ดินในอนาคตของกรมธนารักษ์ว่า กรมธนารักษ์ได้เปิดประมูลผู้ทำโครงการดังกล่าวจนได้ทั้งคน และเครื่องแล้ว โดยกรมธนารักษ์ พร้อมดำเนินการเพื่อรันระบบได้ในปี 2561
อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังกล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต. ในส่วนนี้ว่า เกิดจากประชาชนเก็บเหรียญทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวนี้ไว้ แม้กรมธนารักษ์ จะได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 20% แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีปัญหาขาดแคลนอยู่ เนื่องจากประชาชนเริ่มหันมาเก็บเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต.มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ปัญหาการขาดแคลนนี้จะยุติลงได้ในสิ้นเดือน มี.ค. หลังจากจะมีการนำเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต. ที่กรมธนารักษ์ได้สั่งผลิตจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์ว่า ปัจจุบันได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้ว 17 ล้านแปลงจากจำนวนที่ดินทั้งหมดที่มี 32 ล้านแปลง และคาดว่าในสิ้นปี 60 กรมธนารักษ์จะทำการประเมินได้จนครบทั้งหมด
ส่วนการประกาศเลื่อนการบังคับใช้จริงของ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากปี 2561 ไปเป็นปี 2562 นั้น อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังไม่มั่นใจว่า จะเป็นการเลื่อนระยะเวลาเพื่อให้เจ้าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างสามารถปรับตัวได้อีก 1 ปีก่อนที่การเก็บภาษีจริงจะเริ่มเกิดขึ้นใน 2562 หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม นายจักรกฤศฏิ์ เชื่อว่า หลังกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้จริงแล้ว รัฐจะสามารถจัดเก็บภาษีที่เกิดจากการขายอสังหาริมทรัพย์เฉพาะในพื้นที่ที่อยู่รอบกรุงเทพฯ ซึ่งกรมธนารักษ์ ได้ทำการประเมินภาษีแล้วประมาณ 30,000-50,000 ล้านบาท แต่จะไม่มีผลกระทบกับรายได้ที่เป็นค่าเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ เนื่องจากรายได้ส่วนนี้จะเป็นไปตามอัตราใหม่ที่กรมธนารักษ์ ได้ประกาศใช้
อย่างไรก็ตาม นายจักรกฤศฏิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการวางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อรองรับการประเมินราคาที่ดินในอนาคตของกรมธนารักษ์ว่า กรมธนารักษ์ได้เปิดประมูลผู้ทำโครงการดังกล่าวจนได้ทั้งคน และเครื่องแล้ว โดยกรมธนารักษ์ พร้อมดำเนินการเพื่อรันระบบได้ในปี 2561
อธิบดีกรมธนารักษ์ ยังกล่าวถึงปัญหาการขาดแคลนเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต. ในส่วนนี้ว่า เกิดจากประชาชนเก็บเหรียญทั้ง 2 ชนิดดังกล่าวนี้ไว้ แม้กรมธนารักษ์ จะได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 20% แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีปัญหาขาดแคลนอยู่ เนื่องจากประชาชนเริ่มหันมาเก็บเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต.มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ปัญหาการขาดแคลนนี้จะยุติลงได้ในสิ้นเดือน มี.ค. หลังจากจะมีการนำเหรียญ 25 ส.ต. และ 50 ส.ต. ที่กรมธนารักษ์ได้สั่งผลิตจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ