“ธพส.” เดินหน้าโครงการประหยัดพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนฯ ในพื้นที่ศูนย์ราชการ ติดตั้งโซลาร์เซลล์ และเปลี่ยนหลอดแอลอีดี ช่วยประหยัดไฟเทียบเท่าป่า 10 ไร่ ด้าน “รองผู้ว่า กฟน.” ระบุศูนย์ราชการฯ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐแห่งแรกที่ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาขนาดใหญ่สุดในประเทศ ด้วยกำลังการผลิตกว่า 2 พันกิโลวัตต์
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมด้วยนายรุจ เหราบัตย์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) ตลอดจนคณะผู้บริหารจากทุกหน่วยงาน ร่วมพิธีรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการฯ
โดยศูนย์ราชการฯ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,039,250 ตร.ม. และมีจำนวนหน่วยงานราชการใช้ประโยชน์กว่า 40 หน่วยงาน จึงทำให้มีการใช้พลังงานค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ ได้มีนโยบายใช้นวัตกรรมในการประหยัดพลังงานภายในศูนย์ราชการฯ ทำให้เป็นที่มาของการขอรับการสนับสนุนโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อช่วยลดพลังงานสิ้นเปลือง และประหยัดไฟฟ้าจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน และนำไปสู่การเป็นหน่วยงานประหยัดพลังงานที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์หลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ซึ่ง ธพส.มีความเชื่อมั่นให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะหน่วยงานที่มีความรู้ความชำนาญ และมีมาตรฐานในงานดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งการร่วมกันดำเนินโครงการในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญ ซึ่งอาจมีการขยายผลต่อเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในโอกาสต่อไป เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืน
ด้านรองผู้ว่า กฟน. ได้กล่าวว่า กฟน.ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล มีความยินเป็นอย่างยิ่งที่ ธพส.มอบความไว้วางใจให้ กฟน.เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ณ ศูนย์ราชการฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ ในฐานะศูนย์รวมหน่วยงานราชการมากกว่า 40 หน่วยงาน
สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาในครั้งนี้ มีกำลังผลิตการผลิตไฟฟ้า 2,212 กิโลวัตต์ ดังนั้น ศูนย์ราชการฯ จึงเป็นหน่วยงานของรัฐแห่งแรกที่มีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ กฟน.ยังได้มีการเปลี่ยนหลอดไฟถนน และหลอดไฟภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ให้เป็นหลอดไฟแอลอีดี 38,017 หลอด ดังนั้น โดยภาพรวมทั้งโครงการจะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าเทียบเท่ากับการปลูกป่าถึงประมาณ 10 ไร่
ทั้งนี้ กฟน.มีความพร้อมในการให้คำแนะนำปรึกษา และบริการออกแบบติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับหน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจต้องการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง เบอร์โทรศัพท์ 0-2878-5288
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 พร้อมด้วยนายรุจ เหราบัตย์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) ตลอดจนคณะผู้บริหารจากทุกหน่วยงาน ร่วมพิธีรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการฯ
โดยศูนย์ราชการฯ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,039,250 ตร.ม. และมีจำนวนหน่วยงานราชการใช้ประโยชน์กว่า 40 หน่วยงาน จึงทำให้มีการใช้พลังงานค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีภาระค่าใช้จ่ายไฟฟ้าสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ ได้มีนโยบายใช้นวัตกรรมในการประหยัดพลังงานภายในศูนย์ราชการฯ ทำให้เป็นที่มาของการขอรับการสนับสนุนโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อช่วยลดพลังงานสิ้นเปลือง และประหยัดไฟฟ้าจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน และนำไปสู่การเป็นหน่วยงานประหยัดพลังงานที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์หลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ซึ่ง ธพส.มีความเชื่อมั่นให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะหน่วยงานที่มีความรู้ความชำนาญ และมีมาตรฐานในงานดังกล่าวเป็นอย่างดี ซึ่งการร่วมกันดำเนินโครงการในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญ ซึ่งอาจมีการขยายผลต่อเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในโอกาสต่อไป เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างยั่งยืน
ด้านรองผู้ว่า กฟน. ได้กล่าวว่า กฟน.ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล มีความยินเป็นอย่างยิ่งที่ ธพส.มอบความไว้วางใจให้ กฟน.เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) และเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี ณ ศูนย์ราชการฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญ ในฐานะศูนย์รวมหน่วยงานราชการมากกว่า 40 หน่วยงาน
สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาในครั้งนี้ มีกำลังผลิตการผลิตไฟฟ้า 2,212 กิโลวัตต์ ดังนั้น ศูนย์ราชการฯ จึงเป็นหน่วยงานของรัฐแห่งแรกที่มีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ กฟน.ยังได้มีการเปลี่ยนหลอดไฟถนน และหลอดไฟภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ให้เป็นหลอดไฟแอลอีดี 38,017 หลอด ดังนั้น โดยภาพรวมทั้งโครงการจะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าเทียบเท่ากับการปลูกป่าถึงประมาณ 10 ไร่
ทั้งนี้ กฟน.มีความพร้อมในการให้คำแนะนำปรึกษา และบริการออกแบบติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับหน่วยงานราชการ ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจต้องการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar rooftop) สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ที่ ฝ่ายธุรกิจบริการและคุณภาพไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง เบอร์โทรศัพท์ 0-2878-5288