กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยเดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุน “DTGO” กลุ่มบริษัทในเครือของ “ทิพาภรณ์ อริยวรารมย์” ลูกสาวเจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” รุกธุรกิจครั้งใหญ่อสังหาฯ เทรดดิ้ง สถาปนิก บริหารงานก่อสร้าง ตั้งเป้าปี 63 รายได้ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท ด้านบริษัท แอสเสท เวิรด์ฯ ธุรกิจโรงแรมของ “เจ้าสัวเจริญ” หว่านเงินลงทุน 5 ปี เปิด 50 โรงแรมในไทย วางเป้ารายได้ธุรกิจโรงแรมปี 60 เติบโต 30%
นายรัช ตันตนันตา ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัทดีที จำกัด หรือ DTGO ซึ่งเป็นบริษัทของ นางทิพาภรณ์ อริยวรารมย์ บุตรสาวของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของบริษัทหลังจากนี้จะรุกในทุกธุรกิจของบริษัทในเครือ โดยตั้งเป้าภายในปี 2563 จะมีรายได้ราว 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 30,000-35,000 ล้านบาท
โดยจะมีรายได้มาจาก 1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สัดส่วนรายได้มากที่สุดในกลุ่ม 60% ในจำนวนนี้จะการเพิ่มสัดส่วนรายได้ระยะยาวจากธุรกิจโรงแรม อาทิ โรงแรมยู เขาใหญ่, โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย รวมถึงรายได้จาก โครงการวิซด้อม 101 สุขุมวิท 101 ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียม
2.ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้บริษัท ดี ที จี เอ็กซิม จำกัด และ บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้เกือบ 40% ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีธุรกิจด้านออกแบบ และให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร 3.ธุรกิจรับออกแบบ 4.บริษัท ดีแพลน จำกัด ดำเนินธุรกิจบริการรับบริหารงานก่อสร้าง บริหารงานขายโครงการโดยทั้ง 2 ธุรกิจสร้างรายได้ประมาณ 1%
“ในอนาคตบริษัทยังมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน โดยเริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายโครงการคอนโดมิเนียมจากประเทศไทยผ่านบริษัท ดีแพลน (เซี่ยงไฮ้) คอนซัลติ้ง จำกัด ประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน นอกจากนี้ ยังศึกษาการลงทุนอสังหาฯ ในจีน โดยจะเน้นโครงการเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ปัจจุบันมีโครงการเข้ามาเสนอขายให้บ้างแล้ว แต่บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณา” นายรัช กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินในปี 2560 บริษัทเตรียมที่จะทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆ 3-4 โครงการ โดยปี 60 ตั้งเป้ารายได้ 20,000 ล้านบาท หรือเติบโต 50% จากปี 59 ที่มีรายได้ 13,000 ล้านบาท
เครือทีซีซีฯ ลุย 5 ปี หว่านเงินผุดอีก 50 โรงแรม
นาย นิชันท์ โกรเว่อร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือทีซีซี กรุ๊ป (ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) ซึ่งถือเป็นกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านบริการ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค กล่าวถึงทิศทางการลงทุนของกลุ่มว่า ขณะนี้ทางทีซีซี กรุ๊ป กำลังปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อรองรับการเติบโต และแผนการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าภายในสิ้นปีกระบวนการปรับโครงสร้างจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้เห็นภาพชัดเจนของทีซีซี กรุ๊ป อย่างไรก็ตาม ตามแผนของการรุกธุรกิจโรงแรมแล้ว ได้วางเป้าภายใน 5 ปี (2560-2564) จะเพิ่มเงินลงทุนในการเปิด 50 โรงแรมกระจายในประเทศไทย โดยให้ครอบคลุมในทุกๆ เซกเมนต์
“เป้าของเรา คือ สร้างการเติบโตของโรงแรมให้เร็วที่สุด การสร้างสินค้าให้มีความโดดเด่น รับกับการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งผลที่ตามมา คือ เรื่องของรายได้ที่โตตาม ทั้งนี้ ทางบริษัทอยู่ระหว่างการปรับภาพลักษณ์ และรีโนเวตในส่วน 23 โรงแรมที่บริหารเอง ซึ่งไม่สามารถระบุเป็นงบประมาณที่แน่ชัดได้ แต่จะมีการแบ่งแยกเซกเมนต์ที่ตรงกลุ่มลูกค้า” นายนิชันท์ กล่าว
ปัจจุบัน โรงแรมที่อยู่ภายใต้บริษัท แอสเสท เวิรด์ฯ 46 แห่ง ซึ่งมีการบริหารโดยเชนระดับโลก 20 โรงแรม และโรงแรมที่บริหารเองอีก 26 แห่ง จำนวนโรงแรมที่อยู่ภายใต้การบริหารในประเทศไทย 38 โรงแรม มีจำนวนห้องพัก 6,000 ห้องจากโรงแรม 46 แห่งอยู่ในประเทศไทย โดยที่เหลือกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ ได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ลาว กัมพูชา และจีน ทั้งนี้ ในปี 60 มีแผนเปิดเพิ่ม 3 โรงแรม แยกเป็นโรงแรมใหม่เชนจาก Marriott International จำนวน 1 แห่ง และอีก 2 แห่งที่บริหารเอง ได้แก่ โรงแรม “เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก” เปิดดำเนินการแล้ว และโครงการที่กำลังปรับปรุงใน จ.เชียงใหม่
โดยผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้น 30% (ปี 59 อยู่ที่ 13%) สูงกว่าตลาดโรงแรมที่คาดว่า จะเติบโตไม่ถึง 10% ขณะที่อุตสาหกรรม และโครงการที่อยู่อาศัยในปีนี้เติบโตลดลง
สำหรับโครงการ เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก เป็นโรงแรมที่ปรับปรุงเมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีพื้นที่ 3 ไร่ จำนวน 38 ห้อง เปิดให้บริการ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา คาดว่าหลังผ่านช่วง 3 เดือนของการจัดโปรโมชัน อัตราการเข้าพักจะอยู่ที่ 75% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 60% และคนไทย 40% สัดส่วนรายได้ของโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา มาจากหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) 35%
ประวัติของที่ดินที่จัดตั้งโรงแรม เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก ตั้งอยู่ที่ 164-172 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. จุดเด่นถือเป็นเรือนเก่าที่สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เดิมเป็นเรือนพักอาศัยของพระนมของพระองค์ท่าน เรือนพักอาศัยนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาบริเวณวังเทเวศร์ ประกอบด้วยห้องพัก 38 ห้อง ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพิ่มความงดงามขึ้นด้วยงานฝีมือจิตรกรรมบนผนัง และงานเขียนกาพย์กลอนที่มีชื่อเสียงของอดีตจนถึงรัชสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของไทย และเชิดชูพระอัจฉริยภาพด้านบทกวีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งสยามอันประเมินค่าไม่ได้ บนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร ร่มรื่นด้วยหลายหลายพันธุ์ไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไทรอายุกว่า 120 ปี นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นเรื่อง “เวลล์เนส” (Wellness) หนึ่งในแนวคิดสำคัญของโรงแรม เพื่อให้แขกผู้พักอาศัยสัมผัสประสบการณ์ของการผ่อนคลาย และดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร โรงแรมจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวเป็นพิเศษ รวมถึงสวนออร์แกนิก ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเลือกวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารได้ด้วยตัวเอง สระว่ายน้ำกลางสวน และบาร์ริมสระเสิร์ฟเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แขกจึงสามารถพักผ่อนใต้ร่มไม้ในระหว่างวัน หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางสวนเขียวขจีใจกลางเมืองที่หลบเร้นจากความวุ่นวายภายนอก”