“พฤกษา” เตรียมย้ายสู่บ้านหลังใหม่ (Pearl Bangkok) หรือ “อาคารไข่มุกแห่งกรุงเทพ” เป็นสำนักงานใหญ่สุดหรู ที่จะเป็นที่กล่าวขวัญมากที่สุดในปี 2017 เพราะจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมของอาคารทรงวงรี ที่เป็นอัตลักษณ์แปลกใหม่ สะดุดตา พร้อมเทคโนโลยี และระบบต่างๆ ภายในอาคารที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในทศวรรษนี้ เพื่อใช้เป็นกองบัญชาการศูนย์รวมของบริษัทฯ จากปัจจุบันที่กระจายอยู่ตามอาคารสำนักงานต่างๆ
ด้วยรูปร่างที่โดดเด่นแปลกตาของ “เพิร์ล แบงก์ค็อก” บนถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็นอาคารทรงวงรี รูปไข่มุกแห่งแรกของเมืองไทย ที่ล้อมด้วยกระจกโค้งทั้งอาคาร และใช้เส้นสายโค้งวนรอบอาคาร มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยตัวตึกไข่มุก แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่ง คือ พื้นที่ “Pearl Dome” ด้านหน้าอาคาร ซึ่งออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยโครงสร้างเหล็กปราศจากเสาภายใน ใช้สำหรับจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ และพื้นที่ส่วนที่สอง ได้แก่ “Pearl Tower” เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 25 ชั้น ที่ออกแบบให้เป็นอาคารสำนักงานเกรด A ตามมาตรฐาน LEED อาคารเขียว (Green Building) ระดับ Gold ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสรรพด้วยคุณค่าในด้านความงาม และประโยชน์ใช้สอยสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
“เพิร์ล แบงก์ค็อก” หรือ ตึกไข่มุก ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากไข่มุก...อัญมณีสวยหรู และทรงคุณค่า โดยพื้นที่ “Pearl Dome” ด้านหน้า ได้แนวคิดมาจาก “หอยมุกมา-เบ” (Mabe) ซึ่งเป็นหอยมุกซีก ที่มีลักษณะทรงกลมครึ่งซีก เนื่องจากเม็ดไข่มุกเติบโตอยู่กับเปลือกหอยมุก หรือที่คนไทยเรียกว่า มุกกัลปังหา ซึ่งเป็นมุกที่มีชื่อเสียงจากจังหวัดภูเก็ต ที่นิยมนำมาทำเป็นหัวแหวน
ขณะที่ส่วนของอาคารสำนักงาน “Pearl Tower” ซึ่งเป็นตึกรูปทรงวงรี นำคอนเซ็ปต์มาจากรูปทรงวงรี โค้งมน และสีสันที่สวยงามของ “ไข่มุกเซาท์ซี” (South Sea Pearl) รูปทรงไข่ (Oval) หรือเรียกอีกอย่างว่า รูปทรงเมล็ดข้าว (Rice Pearl) ที่มีลักษณะทรงรี และแบน ซึ่งเป็นไข่มุกประเภทที่หาได้ยาก และมีคุณค่ายิ่ง โดยไข่มุก South Sea ขึ้นชื่อว่า เป็นไข่มุกที่มีขนาดใหญ่ และสวยงามที่สุดในโลก เนื่องจากความเงางามของผิว และมีขนาดที่ใหญ่กว่าไข่มุกประเภทอื่น
การก่อสร้างตึกไข่มุกที่มีความโค้งมนนี้มีความยากกว่าอาคารสี่เหลี่ยมธรรมดามาก เพื่อที่จะให้ตึกไข่มุกมีความโค้งได้รูปตามที่ออกแบบไว้ กระจกที่ติดอยู่กับอาคารทุกแผ่นต้องได้รับการคำนวณความกว้างยาวอย่างแม่นยำ เพื่อให้ประกอบแต่ละส่วนเข้ากันได้พอดี จึงจำเป็นต้องมีการสั่งตัดกระจกเฉพาะแผ่น ดังนั้น กระจกจำนวนกว่า 11,300 แผ่น ที่อยู่รอบอาคารนี้ จึงมีขนาดไม่เท่ากันเลยสักแผ่นเดียว
ความปราณีตในการออกแบบอาคารไม่ได้มีเพียงด้านสถาปัตยกรรมเท่านั้น ตึกไข่มุกแห่งนี้มีการติดตั้งระบบแสงสีที่ทันสมัย โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการออกแบบ และควบคุมการสลับแสงสีของไฟในยามค่ำคืน เพื่อร่วมสร้างสีสันให้กับกรุงเทพฯ ในโอกาสพิเศษต่างๆ
ตึกไข่มุก ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ประมาณ 200 เมตร เป็นอาคารสำนักงาน สูง 25 ชั้น พร้อมด้วยชั้นใต้ดิน จำนวน 3 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอยประมาณ 30,000 ตารางเมตร ในอาคารมี พื้นที่ให้เช่าจัดแสดงสินค้า และบริการ พื้นที่ให้เช่าประชุม อบรมสัมมนา และจัดเลี้ยง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สำนักงานย่อยของสถาบันการเงินชั้นนำ 7 แห่ง คอนวีเนียนสโตร์ และร้านกาแฟ ร้านอาหารชั้นนำ โดยคาดว่า พฤกษา เรียลเอสเตท จะเริ่มเข้าที่ทำการแห่งใหม่ในตึกไข่มุกแห่งนี้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้
และด้วยความไม่ธรรมดาของตึกไข่มุก...บ้านหลังใหม่ของพฤกษา เรียลเอสแตท แห่งนี้ จึงเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นอาคารที่โดดเด่น สวยที่สุดบนถนนพหลโยธิน และทรงคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมแห่งทศวรรษ หรือนับเป็น “ไข่มุกแห่งเอเชีย” ได้เลยทีเดียว.