แบงก์กรุงศรีอยุธยา ตั้งเป้าสินเชื่อปี 60 โตอีก 11% จากยอดคงค้างสิ้นปี 59 ที่ 645,000 ล้านบาท พร้อมยึดนโยบายรักษาความเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อย และเดินหน้าขยายฐานสู่ CLMV อย่างแข็งแกร่ง
นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY)เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยทุกประเภทปีนี้โตประมาณ 11% โดยสินเชื่อเซ่าซื้อเป็นส่วนของกรุงศรี ออโต้เติบโต 10% เงินติดล้อเติบโต 20% สินเชื่อที่อยู่อาศัยโต 10% และบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคลโต 7-8% จากยอดคงค้างสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร ณ สิ้นปี 2559 ที่อยู่ในระดับ 645,000 ล้านบาท มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ที่ 2.21% และในปีนี้จะบริหารจัดการไม่ให้เกินกว่า 2.5%
ด้านเป้าหมายเงินฝากรายย่อยปีนี้ไว้ที่ 2.2% จากยอดรวมเงินฝาก ณ สิ้นปี 2559 ที่ 609,000 ล้านบาท และมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) โต 11.7% จากยอด AUM ณ สิ้นปี 2559 ที่ 362,000 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์ในปีนี้ ธนาคารยังคงมุ่งรักษาความเป็นผู้นำในสินเชื่อรายย่อย สร้างความแข็งแกร่งใน CLMV ขยายส่วนแบ่งทางตลาดในธุรกิจบริหารความมั่นคง และพัฒนาในด้านดิจิทัล โดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการ ผสานความร่วมมือระหว่างธนาคารและบริษัทในเครือ นอกจากนี้ ธนาคารมีแผนรักษาการเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรายย่อย เป็นผู้นำในสินเชื่อบ้าน และขยายธุรกิจไมโครไฟแนนซ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ธนาคารจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านลูกค้ารายย่อยในการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง อันรวมถึง Hattha Kaksekar Limited ธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชา และบริษัท กรุงศรี บริการเช่าซื้อ จำกัด (Krungsri Leasing Services Co., Ltd.) ในสปป. ลาว ในขณะเดียวกันจะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการเพื่อเชื่อมโยงลูกค้าออฟไลน์มาสู่ออนไลน์มากขึ้น พร้อมกันนั้น ธนาคารยังมีแผนงานที่เปิดสาขาของกรุงศรี บริการเช่าซื้อในลาวเพิ่มที่ปากเซอีกแห่งด้วย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปีนี้ ขณะที่การขยายไปในประเทศเมียนมา และเวียดนามนั้นอยู่ระหว่างการศึกษา
ส่วนผลงานธุรกิจรายย่อยช่วงปีที่ผ่านมา สินเชื่อรายย่อยเติบโตจากปีก่อนหน้าราว15.9% สินเชื่อเชื่อเช่าซื้อโตราว 10.4% สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตสูงถึง 22% ส่วนบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลโตประมาณ 18.9% ด้านเงินฝากลูกค้ารายย่อยเติบโตประมาณ 2.3% ขณะที่มูลค่ทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการโตราว 12.7% โดยมีสัดส่วนสินเชื่อเพื่อรายย่อยมากถึง 44%
"ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตปีนี้ที่ 11% ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเติบโตของปีก่อนที่ 15.9% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากในปีก่อนมีการซื้อธุรกิจไมโครไฟแนนซ์จากกัมพูชาทำให้มีรายการพิเศษ รวมถึงขนาดฐานสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้น การโตด้วยเลขสองหลักก็ยากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ จึงน่าจะเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากกว่า การเติบโตระดับสูงๆ"