ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศทไทยหรือ ตลท.ประกาศให้ บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ APX พ้นเหตุเพิกถอน และปลดเครื่องหมาย SP หลังจากบริษัทได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการ สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ โดยพร้อมกลับเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ SET วันที่ 27 มี.ค.นี้ ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยราคาซื้อขายสุดท้ายอยู่ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น
APX ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นอาคารชุดโรงแรม อาคารชุดพักอาศัย และที่ดินจัดสรรพร้อมบ้านพักตากอากาศ รวมถึงให้บริการจัดการให้เช่าห้องชุด หรือบ้านพักตากอากาศที่ลูกค้าซื้อบางส่วนนำออกให้เช่าในระบบโรงแรม โดยบริษัทจะเก็บค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ และมีผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อตามที่ระบุในสัญญาบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในกรณีพ้นเหตุเพิกถอน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2542 เป็นต้นมา หลักทรัพย์ของ APX ถูกห้ามซื้อขายจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานได้ ดังนั้น ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2542 ที่ราคา 2.80 บาทต่อหุ้น อาจไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ในปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ถือหุ้น และผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลบริษัทได้จากสรุปข้อสนเทศของ APX ที่เผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริงตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(1) และ (3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขายการชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ APX ในวันที่ 27 มีนาคม 2560 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด
APX แต่เดิม คือ บริษัท ซันเทคกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเกษตรอตสาหกรรมแบบครบวงจรในการปลูก และผลิตแปรรูปมะเขือเทศ และข้าวโพด เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2533
ต่อมา บมจ.ซันเทคกรุ๊ป เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการเมื่อ พ.ศ. 2543 และเมื่อดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จ ศาลล้มละลายกลางจึงมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 ทำให้บริษัท สามารถดำเนินธุรกิจการค้าได้ตามปกติ
หลังจากนั้น ในเดือนสิงหาคม 2550 กลมผู้ลงทุนใหม่ นำโดย นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ได้เข้าลงทนในหุ้นเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 2,145 ล้านบาท เป็น 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด เพื่อนำเงินทุนมาใช้รองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลให้กลุ่มคุณพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ถือหุ้น 83.5% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท เอเพ็กซ์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2550
หลังจากนั้น มีการปรับโครงสร้างทุนโดยการลดทุนจดทะเบียนเพื่อลดขาดทุนสะสมทำให้มูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 1.00 บาทต่อหุ้น ในการเปลี่ยนธุรกิจมาเป็นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริษัท โดยเริ่มจากโครงการ Mövenpick White Sand Beach Pattaya เป็นโครงการแรกตั้งแต่ปี 2551
ปัจจุบันมีโครงการที่พัฒนา และกำลังจะพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Mövenpick White Sand Beach Pattaya, โครงการ Sheraton Grand Bay Resort & Grand Bay Residences ที่ภูเก็ต และโครงการซื้อ และปรับปรุงโรงแรมเก่าซิกม่า รีสอร์ท พัทยาใหม่ เป็นโรงแรมใหมชื่อโรงแรม Four Points by Sheraton, Pattaya
APX ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเป็นอาคารชุดโรงแรม อาคารชุดพักอาศัย และที่ดินจัดสรรพร้อมบ้านพักตากอากาศ รวมถึงให้บริการจัดการให้เช่าห้องชุด หรือบ้านพักตากอากาศที่ลูกค้าซื้อบางส่วนนำออกให้เช่าในระบบโรงแรม โดยบริษัทจะเก็บค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ และมีผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อตามที่ระบุในสัญญาบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในกรณีพ้นเหตุเพิกถอน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2542 เป็นต้นมา หลักทรัพย์ของ APX ถูกห้ามซื้อขายจนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการแก้ไขฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานได้ ดังนั้น ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2542 ที่ราคา 2.80 บาทต่อหุ้น อาจไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์ในปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ถือหุ้น และผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลบริษัทได้จากสรุปข้อสนเทศของ APX ที่เผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริงตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29(1) และ (3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขายการชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ APX ในวันที่ 27 มีนาคม 2560 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด
APX แต่เดิม คือ บริษัท ซันเทคกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเกษตรอตสาหกรรมแบบครบวงจรในการปลูก และผลิตแปรรูปมะเขือเทศ และข้าวโพด เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2533
ต่อมา บมจ.ซันเทคกรุ๊ป เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการเมื่อ พ.ศ. 2543 และเมื่อดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จ ศาลล้มละลายกลางจึงมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 ทำให้บริษัท สามารถดำเนินธุรกิจการค้าได้ตามปกติ
หลังจากนั้น ในเดือนสิงหาคม 2550 กลมผู้ลงทุนใหม่ นำโดย นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ได้เข้าลงทนในหุ้นเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 2,145 ล้านบาท เป็น 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด เพื่อนำเงินทุนมาใช้รองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลให้กลุ่มคุณพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ถือหุ้น 83.5% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท เอเพ็กซ์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2550
หลังจากนั้น มีการปรับโครงสร้างทุนโดยการลดทุนจดทะเบียนเพื่อลดขาดทุนสะสมทำให้มูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 1.00 บาทต่อหุ้น ในการเปลี่ยนธุรกิจมาเป็นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริษัท โดยเริ่มจากโครงการ Mövenpick White Sand Beach Pattaya เป็นโครงการแรกตั้งแต่ปี 2551
ปัจจุบันมีโครงการที่พัฒนา และกำลังจะพัฒนา 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Mövenpick White Sand Beach Pattaya, โครงการ Sheraton Grand Bay Resort & Grand Bay Residences ที่ภูเก็ต และโครงการซื้อ และปรับปรุงโรงแรมเก่าซิกม่า รีสอร์ท พัทยาใหม่ เป็นโรงแรมใหมชื่อโรงแรม Four Points by Sheraton, Pattaya