xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 10% รับตลาดฟื้น-รุกช่องทางดิจิตอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรุงศรี ออโต้ มั่นใจธุรกิจสินเชื่อยานยนต์จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากมาตรการการลงทุนของภาครัฐ และการบริโภคเอกชน พร้อมตั้งเป้าสินเชื่อรวม 307,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10% โดยมียอดสินเชื่อใหม่ 140,000 ล้านบาท

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปี 60 กรุงศรี ออโต้คาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เป็นผลจากการลงทุนของภาครัฐและการบริโภคภาคเอกชน และการกระตุ้นตลาดจากผู้ผลิตรถยนต์ โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะอยู่ที่ 800,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 4% หลังจากที่หดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่โครงการรถคันแรก ขณะที่ยอดขายรถมือสองเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 1.4 ล้านคัน โต 5%

ทั้งนี้ ในปีนี้กรุงศรี ออโต้ตั้งเป้ายอดสินเชื่อรวม 307,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ตั้งเป้ายอดสินเชื่อปล่อยใหม่ 140,000 ล้านบาท เติบโตได้ 4% บริหารจัดการสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ให้อยู่ในระดับกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.63% หรือไม่เกินเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 1.70% และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 25% จาก 24% ณ สิ้นปีก่อน ภายใต้คาดการณ์เศรษฐกิจโตประมาณ 3.3% และสินเชื่อยานยนต์โดยรวมที่ 528,000 ล้านบาท หรือเติบโต 3%

พร้อมกันนั้นก็จะพัฒนาช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สนับสนุนให้สินเชื่อสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปีที่ผ่านมากต้องยอมรับว่า บางจุดในช่องทางดิจิทัลยังไม่สมบูรณ์นัก หรือมีความล่าช้าไปบ้าง ก็จะต้องปรับปรุงแก้ไข พร้อมมีแคมเปญใหม่ๆออกมาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าด้วย โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ 800 ล้านบาท

"การตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 2 หลักต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในปีนี้ ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายของเรา ท่ามกลางการแข่งขันที่น่าจะรุนแรงขึ้น หลังตลาดรถใหม่ฟื้น และการแข่งขันด้านราคาที่ทำได้ยากในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น แต่เราก็มั่นใจด้านการบริการรวมถึงแคมเปญต่างๆที่จะออกมาในช่วงที่เหลือของปีจะทำให้สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายที่ตั่้งไว้"

สำหรับในปี 2559 ผลประกอบการของกรุงศรีเติบโตได้ดีไม่ว่าจะเที่ยบกับภาพรวมและเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมียอดสินเชื่อรวมที่ 134 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 7% จากภาพรวมตลาดโต 0.4% ขณะที่ยอดคงค้างรวมอยู่ที่ 10% มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 24%จาก 22%ในปีก่อนหน้า และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ที่ 1.63% จากปีก่อนที่ 1.70%
กำลังโหลดความคิดเห็น