บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า ตลาดหุ้นยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 1,557-1,574 จุด จากปัจจัยต่างประเทศ แนะให้ติดตามการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/59 คาดโตประมาณ 10% และทั้งปี 2559 โต 30%
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ วิเคราะห์ว่า นักลงทุนต้องระมัดระวังจากความกังวลเม็ดเงินที่จะไหลออกจากเอเชีย เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่นางเจเนต เยลเลน ส่งสัญญาณว่า มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มีนาคม และใน Wall Street ตอนนี้มองกันว่า โอกาสขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 90% แล้ว
แต่ความไม่แน่นอนในเรื่องการเลือกตั้งในยุโรปว่า จะก่อให้เกิดเรื่องการออกจากสหภาพยุโรปของประเทศต่างๆ ทำให้มองว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เงินทุนโลกส่วนหนึ่งจะยังคงจะอยู่ในเอเชียกันต่อไป ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือได้มีการยิงขีปนาวุธถึง 4 ลูก โดย 3 ลูกตกลงในเขตที่ใกล้ญี่ปุ่น ทำให้ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชียในทันที
นอกจากนี้ จีนได้มีการปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือ 6.5% หลังจากเริ่มประชุมรัฐสภาครั้งใหญ่ในวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ปัจจัยเรื่องจีนกระทบกับภูมิภาคพอสมควร เพราะจีนเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าในภูมิภาคปริมาณมาก ดังนั้น จึงส่งผลให้สัปดาห์นี้หุ้นน่าจะไปได้ลำบาก โดยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในลักษณะแกว่งออกด้านข้างในกรอบ 1,557-1,574 จุด
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะต้องติดตามตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะประกาศตัวเลขรวมของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/2559 และผลประกอบการทั้งปี 2559 คาดว่าจะออกมาดีพอสมควร โดยไตรมาส 4/2559 น่าจะโตประมาณ 10% และทั้งปีโต 30%