“บิสซิเนสอะไลเม้นท์” คาดปี 2560 รายได้หาย กำไรหด เหตุเข้าประมูลงานน้อยลง และในกลุ่มธุรกิจเครื่องมือแพทย์มีการแข่งขันสูง โอกาสได้งานน้อย ประเมินรายได้กลับมาเท่ากับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประมาณ 6-8% แย้มมีงานในมีที่คาดว่า จะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมดประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมศึกษาความเป็นไปได้จ่อเข้าลงทุนเครื่องมือแพทย์สำหรับผู้ชรารับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ หรือ BIZ กล่าวถึงประมาณการธุรกิจของบริษัทในปีนี้ว่า บริษัทฯ ประเมินอัตรากำไรสุทธิในปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวลงลดมาที่ 6-8% เทียบจากเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 9.45% ที่บริษัทฯ ได้รับงานจำนวนมาก ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูง แต่ในปีนี้บริษัทมีการเข้าประมูลงานใหม่ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อีกทั้งยังมีการแข่งขันกันสูง ทำให้โอกาสที่จะได้งานมีความเป็นไปได้ยากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าแนวโน้มกำไรในปีนี้จะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกันกับอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่มีการเติบโตเฉลี่ยในระดับ 7-8%
“บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในภายในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ ก็มีการเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งโรงพยาบาลภาครัฐ และภาคเอกชนในประเทศ จำนวน 2-4 ราย ซึ่งอยู่ในขั้นการเจรจา โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/2560 ถึงไตรมาส 3/2560 นี้ นอกจากนี้ ยังมีงานในประเทศกัมพูชา หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมา ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเครื่องฉายรังสีรักษา (Radiotherapy Products) และผลิตภัณฑ์สำหรับรังสีระยะใกล้ (Brachytherapy Products) และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ โดยอยู่ระหว่างเจรจากับโรงพยาบาลภาครัฐ 1 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2-3 ปีนี้ มูลค่างานรวมประมาณ 80-100 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังได้วางแผนในการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ นอกเหนือจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลกรุงเทพดุสิตเวชการ เป็นต้น
ขณะที่ในส่วนของโอกาสขยายธุรกิจไปยังศูนย์รักษาโรคมะเร็ง โดยอยู่ระหว่างเริ่มต้นการศึกษาความเป็นไปได้ และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 3-5 ปีจากนี้ อีกทั้งยังมองหาโอกาสทางธุรกิจในส่วนของเครื่องมือแพทย์สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอีกด้วย แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่ เพราะยังต้องศึกษาความเสี่ยง และโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย
ขณะที่ นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินและบัญชี บมจ.บิสซิเนสอะไลเม้นท์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องฉายรังสีว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่เครื่องมือในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงยังขาดแคลนอยู่อีกมาก ส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือดังกล่าวอยู่ในระดับสูง โดยจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งของไทยในปี 2558 มีอยู่กว่า 130,000 ราย โดยประเมินว่า ภายในปี 2563 จะมีจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มอีกถึง 150,000 ราย