ไทยพีบีเอส ร่อนแถลงการณ์ ยุติการลงทุนซื้อหุ้นกู้ “ซีพีเอฟ” พร้อมแจงกลไกบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายตามกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ผู้บริหารออกโรงแสดงความรู้สึกเสียใจ และขอบคุณทุกความเห็นที่แสดงความเป็นห่วง
วันนี้ (15 มี.ค.) เว็บไซต์ไทยพีบีเอส ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์ขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือ ไทยพีบีเอส กรณีซื้อตราสารหนี้ (หุ้นกู้) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ว่า จากกรณีที่มีการแสดงความคิดเห็นจากสังคมถึงการบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องของ ส.ส.ท. ด้วยการนำสินทรัพย์สภาพคล่อง (รายได้ที่ยังไม่ถึงกำหนดใช้จ่าย) ไปซื้อตราสารหนี้ เพื่อทำให้สินทรัพย์สภาพคล่องนั้น สร้างรายได้ และถูกนำไปพัฒนาองค์กร ซึ่งกรณีนี้มีผู้ชมผู้ฟังส่วนหนึ่งได้ตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมของการลงทุนดังกล่าว และกังวลว่าจะกระทบความเป็นอิสระในการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ
ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.ส.ท. ขอขอบคุณในทุกข้อคิดความเห็นจากทุกภาคส่วน และรู้สึกเสียใจ ขออภัยที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนที่ติดตามไทยพีบีเอส มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร ส.ส.ท.ขอเรียนชี้แจงว่า การบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องมีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อให้การบริหารเงินรายได้ที่รอถึงกำหนดจ่าย มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากที่สุด ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด โดยมีการจัดการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน เป็นเงื่อนไขกำกับการลงทุน คือ ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจัดอันดับเครดิตในระดับ A (จัดอันดับโดย TRIS) ซึ่งหมายถึงตราสารที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และคืนเงินต้นในเกณฑ์สูง
โดยคำชี้แจงดังกล่าวระบุอีกว่า กลไกการบริหารสินทรัพย์สภาพคล่อง ระเบียบ ส.ส.ท.กำหนดให้คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่จัดทำกรอบนโยบายลงทุนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายอนุมัติในทุกปีงบประมาณ โดยเสนอขออนุมัติพร้อมกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ เมื่อผ่านความเห็นชอบแล้ว ฝ่ายบริหารจึงดำเนินการบริหารจัดการในรูปแบบต่างๆ ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งเงินฝากในสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ (พันธบัตร และหุ้นกู้)
สำหรับการบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องในปีงบประมาณ 2560 ก็ดำเนินการตามกรอบนโยบายลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบาย และการตัดสินใจเลือกลงทุนในตราสารหนี้บริษัทใดบริษัทหนึ่งนั้น ฝ่ายบริหารจะมีการปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน โดยลงทุนในตราสารหนี้เท่านั้น ไม่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสามัญ หรือตราสารทุนประเภทอื่นๆ อย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุผลการบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำกว่า และบริหารจัดการสภาพคล่องได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อยืนยันในหลักการของสื่อสาธารณะที่ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรอบด้าน เสียงวิพากษ์วิจารณ์ และข้อคิดความเห็นต่างๆ ต่อการบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องของ ส.ส.ท. จึงเป็นสิ่งที่ฝ่ายบริหาร ส.ส.ท.ตระหนัก และเล็งเห็นว่า จำเป็นต้องมีการพิจารณาทบทวนกรอบนโยบายลงทุน รวมทั้งการยุติการลงทุนในตราสารหนี้บางบริษัทที่อาจจะส่งผลให้ภาคประชาชน และสังคมโดยรวมเกิดข้อสงสัย และความคลางแคลงใจ โดยจะมีการนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.พิจารณาโดยเร็วที่สุด