บิวตี้ คอมมูนิตี้ รุกหนักครองตลาดทั้งใน-ต่างประเทศ ขึ้นแท่นรีจินัลแบรนด์กวาดยอดขายทั่วเอเชีย จับมือพันธมิตรใหม่บุกฟิลิปปินส์ ตลาดในประเทศยกขบวนผลิตภัณฑ์บุก KING POWER ประเดิม 3 สาขา เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมเดินหน้าขยายสาขาทุก Shopbrand และช่องทางออนไลน์ มั่นใจยอดขายโตก้าวกระโดด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 3,100 ล้านบาท ทำนิวไฮต่อเนื่อง
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และบำรุงผิว เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ภายใต้การบริหารของ BEAUTY ยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ ในตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ สินค้าของ BEAUTY เป็นที่รู้จักในตลาดระดับภูมิภาคเอเชีย หรือ “รีจินัล แบรนด์” หลังจากทำตลาดมานานกว่า 4 ปี และล่าสุด บริษัทได้ทำการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในรูปแบบ Independent Shop BEAUTY BUFFET โดยจะเปิดร้านแรกในช่วงไตรมาส 2 ณ Ayala 30th mall Ayala South Park ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่อันดับต้นๆ ของฟิลิปปินส์
“BEAUTY ยังคงเดินหน้าขยายช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดต่างประเทศมีแผนขยายสาขาที่เป็น Independent shop จำนวน 14 สาขา จากปัจจุบัน 40 สาขา กระจายอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แผนขยายสาขาที่เป็น Shop in Shop จำนวน 10 สาขา จากปัจจุบัน 138 สาขา กระจายอยู่ในกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชีย คือ ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย” นายแพทย์สุวิน กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทมีการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้าน KING POWER 3 สาขา ประกอบด้วย ศรีวารี สุวรรณภูมิ และดอนเมือง มีจำนวนสินค้าที่วางขายกว่า 30 SKUs อาทิ Series Milk Plus, Vit C, Double Milk, Aqua ซึ่งผลตอบรับจากผู้บริโภค และกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางที่ดี เชื่อว่าช่องทางจำหน่ายใหม่ดังกล่าวจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมียอดขายเพิ่มมากขึ้น จากการหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายของผู้บริโภค
ส่วนตลาดในประเทศปัจจุบันบริษัทมีสาขาทุกแบรนด์ในประเทศรวม 332 สาขา มีแผนเพิ่มสาขา BEAUTY BUFFET จำนวน 30 สาขา BEAUTY COTTAGE จำนวน 15 สาขา BEAUTY MARKET จำนวน 5 สาขา และยังได้ดำเนินการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Traditional Trade ช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งในปีที่ผ่านมา BEAUTY ได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ต่างๆ ผ่านทาง Facebook และเว็บไซต์ต่างๆ พบว่ามีกระแสตอบรับดีเป็นอย่างมาก ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงวางเป้าหมายที่จะรุกตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่มีรายได้เติบโตก้าวกระโดด
สำหรับแนวโน้มการเติบโตปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 3,100 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งจะเป็นการตั้งเป้าผลประกอบการเติบโตสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่งบลงทุนอยู่ที่ 160 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนเปิดสาขาใหม่จำนวน 110 ล้านบาท และนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างยอดขาย และปรับปรุงอาคารสำนักงานแห่งเดิมและแห่งใหม่ให้เป็น Happy Work Place รองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นายแพทย์สุวิน กล่าวต่อไปว่า บริษัทมีผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 2559 โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,558.84 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,792.03 ล้านบาท จำนวน 766.81 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 42.79% และมีกำไรสุทธิ 656.01 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 402.49 ล้านบาท จำนวน 253.52 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.00%
คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 99.75% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี และสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% คิดเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.138 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 414.13 ล้านบาท จากที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.08 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 89.57% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นเงินปันผลจำนวน 240 ล้านบาท ส่งผลทำให้ในปี 2559 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.218 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 654.24 ล้านบาท หรือ 99.75% ของกำไรสุทธิ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล 3 พ.ค.60 กำหนดจ่ายเงินปันผล 19 พ.ค.60