xs
xsm
sm
md
lg

ส่องหุ้นเด่นรับดอกเบี้ยขาขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุตลาดทุนโลกซึมซับปัจจัยลบกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จะประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม วันที่ 14-15 มี.ค. 60 ไปแล้วระดับหนึ่ง สะท้อนจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ากว่า 2.4% ทั้งนี้ ปัจจุบัน หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 19.8 ล้านล้านดอลลาร์ (ใกล้แตะกรอบที่ 20 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 112% ของ GDP)

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งสัญญาณว่า ระบบเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่อัตราดอกเบี้ย “ขาขึ้น” ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางรายที่พึ่งพาการกู้ยืม และมีต้นทุนการกู้ยืมมีสัดส่วนดอกเบี้ยลอยตัวสูง ขณะที่ผลตอบแทน หรือราคาขายปรับเพิ่มไม่ได้ หรือได้น้อย เช่น ธุรกิจการเงินรายย่อยในกลุ่มสินเชื่อและเช่าซื้อ (ASK, THANI) ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง-เล็ก (BAY, TMB, KKP, TISCO) ผู้ประกอบการมือถือและโครงข่าย (DTAC, JAS) สายการบิน (THAI) รับเหมาก่อสร้าง (ITD)

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงภาพรวมจะเห็นได้ว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่ม Non-Bank ณ สิ้นงวด 2559 อยู่ที่เพียง 1.19 เท่า (อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ) ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงมาก จึงเชื่อว่าผลกระทบโดยรวมน่าจะจำกัด

ในทางตรงข้าม ยังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น คือ หุ้นที่มีภาระหนี้สินในระดับต่ำ มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวน้อย หรือเป็นบริษัทที่มีเงินสดสุทธิ (Net Cash) หมุนเวียนต่อเนื่อง เช่น กลุ่มค้าปลีก (ROBINS, HMPRO) กลุ่มประกัน (BLA) โรงพยาบาล (BDMS, BCH, LPH) รับเหมาฯ (STEC, SYNTEC) ICT (AIT) หรือแม้แต่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก็ยังมีหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (BBL, KTB)

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ กำลังซื้อในภูมิภาคยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เพราะว่าราคาพืชผลทางเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะข้าว ทำให้โดยรวมยังคงคาดการณ์ GDP Growth ปี 2560 ที่ 3.5-4%
กำลังโหลดความคิดเห็น