พลังงานบริสุทธิ์ เริ่มบุ๊กรายได้ขายไฟฟ้าจากวินด์ฟาร์มเฟสแรกแล้ว ดันปีนี้กำลังการผลิตรวม 404 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 60 นิวไฮต่อเนื่อง บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น เตรียมรับทรัพย์ 26 พ.ค.60 เล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท รองรับแผนปรับโครงสร้างทางการเงิน และเตรียมขยายธุรกิจ
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2560 คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากในปีนี้จะเป็นปีแรกที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ ผลิตไฟฟ้าได้เต็มตลอดทั้งปี อีกทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ (โครงการหาดกังหัน 1-3) โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม หาดกังหัน 1 ขนาดกำลังการผลิต 36 เมกะวัตต์ ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว บุ๊ครายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/2560 นี้
ส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือกำลังการผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ และจะทยอย COD เร็วๆ นี้ ผลักดันให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์ม เพิ่มเป็น 404 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
สำหรับการขยายธุรกิจไปยังอุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) หรือที่เรียกว่า แบตเตอรี่นั้น บริษัทฯ ได้ทำการลงทุนในบริษัท AmitaTechnologies Inc ประเทศไต้หวัน ในสัดส่วน 35.20% เรียบร้อยแล้ว จากเทคโนโลยีอันทันสมัยของ Amita ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งโรงไฟฟ้า ยานพาหนะ โรงงาน อาคาร บ้านเรือน เป็นต้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นการเตรียมการเพื่อพัฒนาธุรกิจ และขยายการลงทุนเพื่อรุกคืบในธุรกิจนี้ร่วมกันทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งจะได้เปิดเผยรายละเอียดให้ทราบต่อไป
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เพราะถือเป็นปีแรกที่ EA เริ่มเปิดฉากรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 404 เมกะวัตต์ จากปีที่ผ่านมา กุมกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 278 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม 126 เมกะวัตต์ โดย EA พร้อมที่จะดำเนินโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และประสบการณ์ที่เรามีเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ต่อไป” นายอมร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2559 นับเป็นปีแรกที่บริษัทฯ มีรายได้เกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ โดยมีรายได้รวม 10,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จ.พิษณุโลก ขนาด 90 เมกะวัตต์ ซึ่ง COD ตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 ทำให้ในปี 2559 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 4 แห่ง สามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าได้รวมกันทั้งสิ้น 566.51 ล้านหน่วย สูงกว่าปี 2558 ถึง 43%
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากกำไรสะสม 0.15 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 พร้อมทั้งอนุมัติให้ออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงิน และรองรับการขยายธุรกิจตามแผนงานของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ