บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ “AAA (tha)” แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) (BAY) โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะมีอายุไม่เกิน 3 ปี และจะมีมูลค่ารวมไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ คือ เพื่อนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และ/หรือนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร
อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ ที่มองว่า BAY เป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU, อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ “A” /แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ซึ่งเป็นธนาคารแม่ และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน BAY ที่ 76.9% อีกทั้ง BAY ยังมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ BTMU ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ BTMU ยังมีอำนาจในการควบคุมการบริหารงาน และมีการเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างกันในระดับสูง
ทั้งนี้ การปรับลดอันดับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของระยะยาวของ BTMU น่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ BAY ซึ่งจะรวมถึงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว รวมถึงอันดับเครดิตของ BAY อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการลดลงของโอกาสที่ BTMU จะให้การสนับสนุนแก่ BAY ที่อาจสะท้อนได้จากจากการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือการลดลงของการเชื่อมโยงในการดำเนินงาน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ เชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ ที่มองว่า BAY เป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU, อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ “A” /แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ซึ่งเป็นธนาคารแม่ และมีสัดส่วนการถือหุ้นใน BAY ที่ 76.9% อีกทั้ง BAY ยังมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจของ BTMU ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ BTMU ยังมีอำนาจในการควบคุมการบริหารงาน และมีการเชื่อมโยงการดำเนินงานระหว่างกันในระดับสูง
ทั้งนี้ การปรับลดอันดับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของระยะยาวของ BTMU น่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ BAY ซึ่งจะรวมถึงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว รวมถึงอันดับเครดิตของ BAY อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการลดลงของโอกาสที่ BTMU จะให้การสนับสนุนแก่ BAY ที่อาจสะท้อนได้จากจากการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือการลดลงของการเชื่อมโยงในการดำเนินงาน เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ เชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง