xs
xsm
sm
md
lg

“BAFS” ตั้งเป้ารายได้แตะ 5 พันล้านบาท ภายใน 5 ปี รับลูกธุรกิจการบินขยายตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ” ตั้งเป้ารายได้ภายใน 5 ปี เติบโตไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท จากธุรกิจการบินในภูมิภาคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมประเมินรายได้ปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 5% เทียบจากปีก่อนหน้า

นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือ BAFS กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ในช่วงปี 2564-2565 อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท เทียบจากปี 2559 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,560 ล้านบาท โดยประเด็นหลักอยู่ที่การเริ่มเปิดให้บริการใน 2 โครงการที่บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุน คือ โครงการท่อส่งน้ำมันใต้ดินในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 และโครงการท่อส่งน้ำมันใต้ดินภาคเหนือ (พิจิตร-ลำปาง) ซึ่งตามกำหนดทั้ง 2 โครงการจะเปิดให้บริการภายในปี 2562 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยรายได้จากธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันในสนามบินจะลดลงมาอยู่ที่ 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 80% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจท่อส่งน้ำมันนอกสนามบิน ที่ดำเนินการโดย บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จะเพิ่มเป็น 30% จาก 20% ในปัจจุบัน

“บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2560 เติบโต 5% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตตามทิศทางเดียวกับการเติบโตของปริมาณการเติมน้ำมัน โดยบริษัทพยายามรักษาการเติบโตของปริมาณการเติมน้ำมันให้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานใน 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินสมุย สนามบินสุโขทัย และสนามบินตราด”

นอกจากนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2560 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2559 เพราะไตรมาส 4/2559 ที่ผ่านมา มีผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2559 อ่อนตัวกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งโดยปกติแล้วไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด และไตรมาส 1 ของทุกปีจะมีการชะลอตัวลงของผลการดำเนินงานเล็กน้อย
 
ขณะที่ในระยะยาวบริษัทประเมินว่า สัดส่วนรายได้ยังมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป โดยรายได้จากธุรกิจท่อส่งน้ำมันนอกสนามบิน จะเพิ่มเป็น 40% หากมีการลงทุนขยายท่อส่งน้ำมันใต้ดินไปยังประเทศพม่า ลาว และจีน ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุน โดยเฉพาะในประเทศพม่า ที่บริษัทเห็นถึงโอกาสในการแข่งขัน เพราะในอนาคตมองว่า จะมีแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งบริษัทจะศึกษาการลงทุนดังกล่าวอย่างจริงจังในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปี 2561

ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 ตั้งเป้าปริมาณการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานเติบโต 5% หรือเพิ่มเป็น 6,000 ล้านลิตร ถือเป็นปริมาณการเติมที่เป็นสถิติสูงสุดใหม่ จากปีก่อนที่มีปริมาณการเติมอยู่ที่ 5,650 ล้านลิตร โดยปัจจัยที่ทำให้ปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานเติบโตมาจากการเปิดอาคารที่พักผู้โดยสาร 2 ของท่าอากาศยานดอนเมือง ทำให้มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 34 ล้านคน ทำให้มีจำนวนเที่ยวบินที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการที่นักท่องเที่ยวหันมาท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวนิยมมากขึ้นหลังจากการท่องเที่ยวในยุโรปชะลอตัวลงจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น อีกทั้งการที่ระดับราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สายการบินต่างๆ มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตาม โดยบริษัทคาดว่า ระดับราคาน้ำมันในปี 2560 จะอยู่ที่ 40-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มองว่า หากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แข่งขันการผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มอีก ก็จะทำให้ระดับราคาน้ำมันอาจจะลดลงไปต่ำถึง 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
กำลังโหลดความคิดเห็น