“สมคิด” จี้เร่งแก้อุปสรรคลงทุนก่อน ธ.โลก ประเมินรอบใหม่ พ.ค.นี้ เผยทำมาต่อเนื่อง 2 ปี และรายงานตลอด หากอันดับไม่ขึ้น เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ พร้อมติง Law Firm ให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง อาจโดนแบล็กลิสต์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการยกระดับการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ได้เร่งแก้ไขข้อจำกัดการทำธุรกิจในไทยคืบหน้าไปแล้วเกินกว่าครึ่ง และได้รายงานให้ธนาคารโลก (World Bank) ทราบมาโดยตลอด
และจากนี้จะเร่งดำเนินการ 2 แนวทาง คือ 1.จะรวบรวมอุปสรรคการทำธุรกิจเป็นแพกเกจรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เร่งรัดดำเนินการ และ 2.สรุปเป็นรายประเด็น และเสนอเข้าคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) เร่งรัดหน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้ทันกับการเข้ามาประเมินเก็บข้อมูลรอบใหม่ของทาง World Bank ในเดือน พ.ค.นี้
“อินโดนีเซีย เพิ่งจะเริ่มทำเรื่องนี้ ในขณะที่เราทำไปแล้ว 2 ปี และมีการรายงานให้เวิลด์แบงก์ทราบมาโดยตลอด โดยในเดือน พ.ค.เจ้าหน้าที่เวิลด์แบงก์ จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้เห็นว่า รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา เราทำเยอะขนาดนี้ ถ้าอันดับยังไม่ดีขึ้น ผมไม่ยอมเด็ดขาด”
นอกจากนี้ จะมีการเรียกประชุมที่ปรึกษากฎหมายของเอกชนมาหารือ เพื่อให้มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทเอกชนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูล ทำให้อันดับการทำธุรกิจของประเทศมีปัญหา ซึ่งหากยังให้ข้อมูลไม่ถูกต้องอีก กระทรวงการคลังจะจดชื่อบริษัทไว้ และไม่ทำธุรกิจด้วย
ด้าน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า ส่วนที่ยังดำเนินการไม่เสร็จ คือ การแก้ไขกฎหมายที่ต้องใช้เวลาหลายเรื่องต้องส่งเข้าคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีการเร่งรัด และมั่นใจว่าจะเสร็จได้ทันช่วง พ.ค.นี้ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งกระทรวงพาณิชย์ การแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานประกันสังคม การแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เป็นต้น