รมว.คลัง จี้สรรพากรหาข้อสรุปเก็บภาษีทักษิณ ขายหุ้นชินฯ ก่อนหมดอายุความสิ้น มี.ค. พร้อมขีดเส้นต้องทำให้จบภายในเดือนนี้ ยอมรับไม่ได้รู้สึกกดดัน แม้จะเป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจ เพราะเป็นหน้าที่ต้องทำ หากทำไม่ได้สรรพากรก็ต้องตอบคำถามกับสังคม
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวถึงการเรียกเก็บภาษีเงินได้ 16,000 ล้านบาท จากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้จากการขายหุ้น บมจ.อินทัช (INTUCH) หรือเดิม คือ บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้แก่บริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ (พีทีอี) จำกัด ว่า เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งได้ฝากให้กรมสรรพากรดูแลเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และดำเนินการไปตามข้อกฎหมาย
สำหรับการขยายอายุความที่สิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค.60 นั้น คณะกรรมการวินิจัยฉัยภาษีอากร กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วว่า ไม่สามารถทำได้ ซึ่งการขยายอายุความต้องขยายเพื่อเป็นคุณเท่านั้น เช่น กรณีที่เสียภาษีไม่ครบแล้ว จะมาขอเสียภาษีเพิ่มเติมก็สามารถขยายเวลาให้ได้
แต่หากจะเป็นการขยายเวลาแล้วทำให้คดีเหมือนกับไม่มีอายุความ ก็คงจะไม่สามารถทำได้ เพราะผิดเจตนารมย์ของข้อกฎหมาย ดังนั้น กรมสรรพากรจะต้องไปหาแนวทางอื่นเพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้ดังกล่าวก่อนที่จะหมดอายุความในวันที่ 31 มี.ค.นี้
“สรรพากรต้องหาช่องทางอื่นว่า จะทำได้แค่ไหน ต้องสรุปให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ เราให้นโยบายสรรพากรว่า ต้องทำไปตามกฎหมาย” นายอภิศักดิ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงฯ ไม่ได้รู้สึกกดดันกับเรื่องดังกล่าว แม้จะเป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ที่กระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรจะต้องดำเนินการ และหากในท้ายสุดกรมสรรพากรไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ ก็ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ได้ว่า เป็นเพราะเหตุผลใด ซึ่งหากชี้แจงได้อย่างมีเหตุผล ก็จะไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนประเด็นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 7% รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ระดับ 7% ต่อไปอีก 1 ปี หลังจากจะสิ้นสุดระยะเวลาการใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราดังกล่าวในวันที่ 30 ก.ย.นี้