xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” มองดัชนีหุ้นไทย 1,530-1,540 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยได้แรงหนุนจากประชุม ครม.รัฐบาลเดินหน้าเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง บวกกับกรมทางหลวง เตรียมชง ครม.อนุมัติผลประมูลมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราชอีก 12 ตอน ให้กรอบดัชนี 1,530-1,540 จุด แนะลงทุนกลุ่มเดินเรือ ด้านราคาทองคำ แนะให้เก็งกำไรเล่นรอบกับการสวิงในกรอบไม่เกิน 1,265 ดอลลาร์สหรัฐ

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลเดินหน้าเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 ให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในวันที่ 14 มี.ค. กรมทางหลวง เตรียมชง ครม.อนุมัติผลประมูลมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราชอีก 12 ตอน และผลการดำเนินงานในปี 59 ของบริษัทจดทะเบียนใน SET กว่า 81% มีกำไรเพิ่มขึ้นโดยมียอดสุทธิกว่า 9 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดรอบ 5 ปี

โดยมีปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค. เนื่องจากอัตราว่างงานของสหรัฐในเดือน ม.ค. อยู่ระดับต่ำ 4.8% รวมถึงอัตราเงินเฟ้อขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ประกอบกับ Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell ตั้งแต่ต้นปีราว 3 พัน ลบ. และรัฐบาลอังกฤษจะประกาศใช้มาตรา 50 เพื่อเริ่มกระบวนการ Brexit ในสิ้นเดือน มี.ค.

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 8 มี.ค. จีน เปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ก.พ. สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.พ. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 9 มี.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐฯ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันที่ 14-15 มี.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ ความกังวล Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค. ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติพลิกเป็น Net Sell โดยเป็นฝั่งขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีราว 3 พันลบ.

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะอ่อนตัวลงโดยมีแนวรับบริเวณ 1,530-1,540 จุด ทั้งนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน เช่น กลุ่มเดินเรือ แนะนำ TTA และ PSL ได้ประโยชน์จากดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) มีแนวโน้มเชิงบวกหลังดีดตัวทำ High ในรอบ 2 เดือน และกลุ่มธนาคาร ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น แนะนำลงทุนแบงก์ใหญ่ ได้แก่ SCB, KTB และ KBANK

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงต่อสภาย้ำเตือนถึงการใส่เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังขาดรายละเอียดที่ชัดเจนในตัวมาตรการ แต่ระบุว่า จะอัดฉีดงบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการป้องกันประเทศ ทำให้จีนต้องเพิ่มงบการทหารตาม รวมทั้งญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มจะใส่เงินสร้างกองทัพเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐฯ เลิกนโยบายวางกำลังไว้ทั่วทุกมุมโลก จึงมีโอกาสจะเพิ่มความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากขึ้น ซึ่งล่าสุด เกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธ 4 ลูก ไปตกในเขตญี่ปุ่น เป็นนัยของการประท้วงท้าทายจีนที่กำลังญาติดีกับสหรัฐฯ ในเชิงเศรษฐกิจ และการค้า จึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ความขัดแย้งย่อยๆ จะเกิดขึ้นหากเกาหลีเหนือยิงใส่เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่นขึ้นมาจริงๆ ก่อนที่จีนจะทำให้เกาหลีเหนือกลับมาอยู่ในโอวาทได้เหมือนเดิม แต่ประเด็นนี้ยังไม่เป็นบวกในทันทีต่อราคาทองคำ

นอกจากนี้ ถ้อยแถลงของประธาน Fed ที่ปรับคำพูดเล็กน้อย แต่แสดงความหนักแน่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในจุดที่เหมาะสม    
 
สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ในภาพสั้นๆ เป็นลบทันทีต่อราคาทองคำ แต่ในภาพระยะยาวแล้ว การที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น จะเป็นผลดีต่อราคาทองคำ รวมไปถึงความเสี่ยงที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเลือกกรรมการใหม่ที่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ยมาเติมใน FOMC แทนที่ตำแหน่งว่าง ก็ยิ่งทำให้ Fed มีแนวโน้มจะรีบปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เพื่อดักหน้าเงินเฟ้อในอนาคตตามคำพูดของประธาน Fed และกรรมการหลายท่านที่ออกมาแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ ประเด็นนี้จึงเป็นบวกต่อราคาทองคำมากเท่ากับระดับเงินเฟ้อที่ Fed มั่นใจว่า จะเกิดขึ้น เพียงแต่ราคาทองคำอาจมีการแกว่งตัวผันผวนแรงในช่วงที่กำลังมีประชุมเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยในแต่ละครั้ง

ดังนั้น การอ่อนตัวลงมาของราคาทองคำจึงเป็นโอกาสในการซื้อสะสมเพื่อถือลงทุน โดยอาจแบ่งขายทำกำไรบางส่วนออกมาเพื่อเล่นรอบก่อนดักซื้อใหม่ในจังหวะพักตัว ในส่วนของราคาในกราฟทางเทคนิคที่มีการปิดกลบแท่งสัปดาห์ แสดงนัยสำคัญเพียงการปรับฐานในช่วงขาขึ้น ส่วนสัญญาณชี้ว่า เข้าสู่ขาลงต้องรอให้หลุด 1,215 ดอลลาร์สหรัฐ เสียก่อน จึงแนะนำให้นักเก็งกำไรเล่นรอบกับการสวิงในกรอบไม่เกิน 1,265 ดอลลาร์สหรัฐ

โดยราคาใกล้ระดับ 1,215 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเลือกซื้อเพื่อถือยาว หรือทำกำไรเป็นรอบได้ แต่ถ้าหลุด 1,215 ดอลลาร์สหรัฐ ควร cut loss แล้วกลับสถานะตาม โดยยังคงให้การสะสมของกองทุน SPDR เป็น key factor เพื่อพิจารณาร่วมกับการยืนที่ระดับ 1,215 ดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น