เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ เดินหน้าเข้า SET ขยายฐานผู้ถือหุ้น และผู้บริโภคต่างประเทศ ขับเคลื่อนแผน APCO 4.0 ด้วยนวัตกรรมเพิ่มภูมิคุ้มกันดูแลผู้ป่วยมะเร็ง, ผู้ติดเชื้อ HIV และโรคติดเชื้อดื้อยา พร้อมวิจัยผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มผู้สูงอายุจับมือพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุน ACPLUS GLOBAL ลุยตลาดดิจิตอลดันผลิตภัณฑ์ LIV PLUS จำหน่ายทั่วโลก ตั้งเป้ารายได้ 500 ล้านบาท โตอย่างน้อย 20%
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนเพื่อขอย้ายหลักทรัพย์ APCO เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการจัดเตรียม และส่งมอบเอกสารให้ ตลท.พิจารณา เพื่อย้ายเข้า SET โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของ APCO ทั้งในการขยายฐานผู้ถือหุ้น และผู้บริโภคในต่างประเทศ
โดยแผนการดำเนินงานหลักของปีนี้ยังคงมุ่งผลักดันรายได้จากผลิตภัณฑ์ในแผน APCO 4.0 ประกอบด้วย 1.ผลิตภัณฑ์เพิ่มภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยเน้นที่มะเร็งเต้านม ช่วยรักษาเต้านมสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดรวมถึงการใช้เคมี และรังสีบำบัด และป้องกันไม่ให้มะเร็งกลับมาเป็นใหม่ ในผู้ป่วยที่ตัดเต้านมแล้ว 2.ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกัน CD4 ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV ได้รวดเร็วกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดโลก 3.ผลิตภัณฑ์สำหรับแก้ไขโรคติดเชื้อดื้อยา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในปัจจุบัน หากไม่มีการแก้ไข คาดว่าส่งผลถึงจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ 10 ล้านคน ภายในปี 2593 นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันการเพิ่มยอดขายของผลิตภัณฑ์สำหรับข้อเข่าเสื่อม เบาหวาน สายตาเสื่อม สะเก็ดเงิน และอาการผิดปกติอื่นๆ
“สำหรับแผนการตลาดปีนี้ บริษัทเน้นขยายการจัดจำหน่ายหลากหลายมากขึ้น โดยแยกกันอย่างชัดเจนเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านช่องทาง Direct Service, TV Marketing, Call Center 1154, BIM Health Center และ Digital Marketing ทั้งใน และต่างประเทศ ให้รองรับกับการเดินหน้าโครงการ APCO 4.0 ที่พร้อมพัฒนา และวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการร่วมมือกับสถาบันการแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเร็วๆ นี้” ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทเตรียมจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ ACPLUS GLOBAL จำกัด สัดส่วน 50:50 ร่วมกับบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้าน Digital Marketing โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ แบรนด์ LIV PLUS ในช่องทาง Digital Marketing ทั่วโลก พร้อมเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการภายในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มสร้างยอดจัดจำหน่ายได้อย่างชัดเจนบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยแบ่งสัดส่วนเป็นในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% และยังคงอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 85% ขณะที่ผลประกอบการปี 2559 เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทมีรายได้รวม 421.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 409.25 ล้านบาท จำนวน 12.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.96% กำไรสุทธิอยู่ที่ 131.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 100.62 ล้านบาท จำนวน 30.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.60%
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.043 บาท หรือคิดเป็น 100% ของกำไรสุทธิ ซึ่งถือเป็นปีที่ 6 ที่บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 100% อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะกำหนดวัน Record Date วันที่ 27 เม.ย.60 และปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เม.ย.60 และจ่ายปันผลในวันที่ 9 พ.ค.60