xs
xsm
sm
md
lg

L&E รุกเวียดนาม ตั้งบริษัทย่อย วางเป้ารายได้ปี 60 โต 15% เตรียมจ่ายปันผล 0.15 บ.ต่อหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E
L&E ตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการปี 2560 เติบโต 15% จากการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโครงการ และความต้องการสินค้า LED ที่เพิ่มขึ้น แถมเตรียมรุกตลาด AEC โดยเน้นกลุ่มประเทศ CLMV เป็นหลัก หวังดันสัดส่วนงานส่งออกโตเป็น 12% ในอีก 2 ปีข้างหน้า เผย Q2 เตรียมเจาะตลาดเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทย่อย ผุดสำนักงาน และโรงงานผลิต หลังดีมานด์มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนผลงานปี 59 ประสบความสำเร็จ รายได้จากการขายและบริการ 2,936 ล้านบาท โต 10% กำไรสุทธิ 74.1 ล้านบาท โต 18% บอร์ดใจดีจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 0.15 บาท กำหนดจ่าย 25 พฤษภาคมนี้

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 2560 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้จากการขายและบริการเติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 2,936 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ เน้นสินค้านวัตกรรมใหม่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในงานโครงการ ที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ตามการขยายตัวของธุรกิจภาคเอกชนและงานก่อสร้าง โดยปัจจุบัน มีมูลค่างานคงค้างในมือ (Backlog) อยู่ที่ 900 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานโครงการอย่างต่อเนื่องอีก

นอกจากนี้ บริษัทฯพร้อมรุกตลาด AEC เต็มกำลัง โดยเฉพาะในประเทศกลุ่ม CLMV ทั้ง กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง และคาดว่าจะสนับสนุนให้สัดส่วนงานในต่างประเทศของบริษัทฯ เติบโตขึ้นเป็น 12% ในอีก 2 ปีข้างหน้า จากปี 2559 อยู่ที่ 7% ของรายได้จากการขาย และบริการได้

ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/2560 โดยเป็นการลงทุนเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เวียดนาม เพื่อเปิดสำนักงาน โชว์รูมสินค้า คลังสินค้า และโรงงานผลิต รุกตลาดเวียดนามโดยเฉพาะ หลังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ รวมทั้งลูกค้าของบริษัทฯ ที่เข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าว อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล, กลุ่มซีพี และกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย จะสามารถซื้อสินค้าและบริการจาก L&E ได้อย่างครบครัน โดยใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท นำไปใช้ตกแต่งสำนักงาน และซื้อเครื่องจักรส่วนหนึ่ง

สำหรับตลาดในเมียนมา ยังมีการเติบโตที่ดี และเป็นตลาดหลักของบริษัทฯ แต่คาดว่าหลังจากบริษัทย่อยในเวียดนาม เสร็จสิ้น จะสามารถสร้างรายได้ขึ้นมาใกล้เคียงกับเมียนมาได้ ส่วนลูกค้าในประเทศลาว และกัมพูชา ยังมีการส่งออกสินค้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการลงทุนใดๆ เพิ่มเติมนอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดสำนักงานตัวแทนขายที่ประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพิ่มเติมในปีนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียน

“การรุกตลาดเวียดนามครั้งนี้ เป็นโมเดลในลักษณะใกล้เคียงกับการจัดตั้งบริษัทย่อยในเมียนมา แต่ขยายใหญ่กว่า เนื่องจากเมียนมา เป็นการจัดตั้งออฟฟิศสำนักงาน ไม่มีโรงงานผลิต เพราะเราเล็งเห็นโอกาสการลงทุนในตลาดเวียดนาม ที่กำลังขยายตัว มีความต้องการใช้สินค้า L&E มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าคุ้มค่าในการลงทุนแน่นอน และมั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า”

สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทฯ ประจำปี 2559 (มกราคม-ธันวาคม 2559) มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 2,936 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2558 ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทฯ วางไว้ สนับสนุนให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 74.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 61.7 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และมีกำไรเบื้องต้นจากการขายและให้บริการ รวมทั้งรายได้อื่นๆ ที่ปรับเพิ่มขึ้น 59.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 7% โดยรายได้จากการขายและให้บริการที่ออกมาอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานโครงการอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการก่อสร้าง และปรับปรุงศูนย์การค้า ซูเปอร์สโตร์ และร้านค้าต่างๆ ที่มีการขยายตัว รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากโครงการของรัฐบาลที่สนับสนุนให้ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนเปลี่ยนมาใช้หลอด LED สนับสนุนรายได้จากงานโครงการในปี 2559 เพิ่มจากปีก่อนหน้า 11% หรืออยู่ที่ 2,012 ล้านบาท ส่วนงานค้าส่ง-ค้าปลีกลดลง 3% เป็นผลจากการกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่อ่อนตัวลง และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการรุกตลาดต่างประเทศ มีรายได้จากงานส่งออกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 79% หรืออยู่ที่ 204 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 พฤษภาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560

“ผลงานปี 2559 สามารถทำผลงานได้ตามแผนที่วางไว้จากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราย้ายโรงงานใหม่ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มส่วนหนึ่ง ทั้งค่าเสื่อมราคาอาคาร เครื่องจักร และดอกเบี้ยจากการก่อสร้าง ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อยอดขายเพิ่มสูงขึ้น แต่มั่นใจว่า หลังจากโรงงานแห่งใหม่ ที่จังหวัดปทุมธานีแล้วเสร็จในปี 59 ที่ผ่านมา ประกอบกับความพยายามรุกทุกตลาดอย่างจริงจัง ในไตรมาส 4/2559 จึงเริ่มเห็นกำไรต่อยอดขายที่คาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น