สรรพสามิต คลอด พ.ร.บ.ฉบับใหม่ กำหนดอัตราภาษีบุหรี่ตามมูลค่าที่ 90% และตามปริมาณ เฉลี่ย 5 บาทต่อมวน ส่วนสุราแช่-กลั่น คิดตามราคามูลค่าขายปลีกแนะนำที่ 30% หรือ 1,000 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ สำหรับสุรากลั่น และ 3,000 บาท/ลิตรแอลกอฮอลบริสุทธิ์สำหรับสุราแช่ คาดประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ภายใน 180 วัน
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต ฉบับใหม่ว่า ทางกรมฯ เตรียมที่จะปรับเพิ่มเพดานอัตราภาษีสรรพสามิตให้สูงขึ้นกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอนาคต ระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า โดยพิกัดอัตราภาษีใหม่ที่จะประกาศใช้จริงหลังพระราชบัญญัติมีผลบังคับใช้จะไม่ทำให้ภาระภาษีที่มีอยู่แต่เดิมของผู้ประกอบการสูงกว่าที่เคยจ่ายอยู่ในปัจจุบันมากนัก โดยเพดานภาษีเหล้าและบุหรี่ใหม่ ที่จะปรับเพิ่มให้สูงขึ้นนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้รัฐบาลสามารถใช้ดุลพินิจในการปรับขึ้นอัตราภาษีตามภาวะเศรษฐที่เปลี่ยนไปในอนาคต โดยไม่จำเป็นต้องเสนอขอแก้ไขพระราชบัญญัติฯ ซึ่งจะมีความยุ่งยากจนเกินไป
นอกจากจากการปรับเพิ่มเพดานภาษีแล้ว นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตยังได้ปรับการคำนวณภาษีใหม่จากปัจจุบันที่ใช้ราคาหน้าโรงงาน หรือราคาสินค้าบวกประกัน บวกค่าระวางทางเรือ (CIF) มาเป็นการใช้ฐานราคาค้าปลีกแนะนำ ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกับที่ผู้ประกอบการได้ส่งให้กระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพากร ทั้งนี้ เพื่อทำให้สร้างความโปร่งใส และมีความเป็นสากลมากขึ้น ส่วนวิธีคำนวณจากปัจจุบันใช้มูลค่าของราคาหน้าโรงงาน หรือ CIF หรือปริมาณที่เป็นลิตร หรือเป็นมวนนั้นแล้ว แต่ว่าผลการคำนวณใดที่จะได้เงินภาษีสูงกว่าก็ใช้วิธีนั้น
อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติสรรพสามิตใหม่ยังได้ปรับใหม่ให้ใช้วิธีการคำนวณทั้งมูลค่า และปริมาณ ซึ่งทำให้ฐานการคำนวณภาษีสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มภาษีบาป ทั้งนี้ แม้ฐานคำนวณใหม่จะสูงขึ้นบ้างก็ตาม แต่กรมสรรพสามิต ยืนยันว่า จะถอยร่นอัตราภาษีให้ต่ำลง เพื่อให้ภาระภาษียังคงเท่าเดิม
ด้านแหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรณีเบียร์ในปัจจุบันนั้น สูงจนชนเพดานแล้ว เนื่องจากกรมสรรพสามิตได้กำหนดเพดานภาษีตามมูลค่าที่ 60% และราคาตามปริมาณจะอยู่ที่ 100 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอลบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ในพระราชบัญญัติใหม่กรมสรรพสามิตได้กำหนดให้ใช้อัตราใหม่โดยคิดตามมูลค่า 30% ของราคาขายปลีกแนะนำ และอัตราตามปริมาณอยู่ที่ 1,000 บาท/ลิตรแห่งแอลกอฮอลบริสุทธิ์ สำหรับสุราแช่และ 3,000 บาท/แอลกอฮอร์บริสุทธิ์สำหรับสุรากลั่น
บุหรี่ ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 90% และตามปริมาณอยู่ที่ 3 บาท/กรัม โดยอัตราภาษีที่ใช้จริงจะอยู่ที่ 10-87% และอัตราตามปริมาณจะอยู่ที่ 0.01-1 บาทต่อกรัม ขณะที่เพดานภาษีบุหรี่ตามพระราชบัญญัติใหม่นั้น กำหนดให้คิดตามมูลค่าที่ 90% และตามปริมาณ 5 บาทต่อมวน
ขณะที่สุรากลั่น ในปัจจุบันได้กำหนดอัตราภาษีไว้ที่ 50% ของมูลค่า และตามปริมาณ 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอลบริสุทธิ์ แต่อัตราใช้จริงจะอยู่ที่ 50% ของมูลค่า และ 150-400 บาท/ลิตรแอลกอฮอลบริสุทธิ์ ซึ่งในพระราชบัญัติใหม่จะกำหนดให้คิดราคาตามมูลค่าเป็น 30% และราคาตามปริมาณที่ 3,000 บาท/ลิตรแห่งแอลกอฮอลบริสุทธิ์ สำหรับสุราแช่ และ 1,000 บาทต่อแอลกอฮอลบริสุทธิ์สำหรับสุรากลั่น
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน พระราชบัญญัติสรรพสามิตฉบับใหม่อยู่ระหว่างรอการลงพระปรมาภิไธยก่อนที่จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน โดยระหว่างนี้ กรมสรรพสามิตจะร่างกฎหมายลูกอีกกว่า 80 ฉบับ โดยยังไม่รวมประกาศต่างของกรมสรรพสามิต ที่จะทยอยออกมาเพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญัติสรรพสามิตฉบับใหม่ด้วย