xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” สั่ง “ตลท.-ก.ล.ต.” เร่งปฏิรูปตลาดทุน เน้นเป็นตลาดหุ้นคุณภาพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สมคิด” สั่ง “ตลท.-ก.ล.ต.” เร่งปฏิรูปตลาดทุน เน้นเป็นตลาดหุ้นคุณภาพ เตรียมดึง บจ.กลุ่มประเทศ CLMV เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เล็งออกมาตรการเพิ่มโทษบริษัทไร้ธรรมาภิบาล พร้อมมอบบทบาทแกนกลางในการพบกันของผู้ประกอบการสตาร์ทอัป และผู้ลงทุน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งปฏิรูปตลาดทุนไทยให้เป็นตลาดหุ้นที่มีคุณภาพ โดยให้เป็นแหล่งระดมทุนที่สอดรับกับการพัฒนาประเทศ โดยคาดว่าในปี 2560 จะมีบริษัทที่อยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเข้ามาระดมทุนได้ถึง 30% ของหุ้นเข้าใหม่ในปีนี้ที่คาดว่า จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ที่ 280,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีจากนี้จะมีบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายมากถึง 50% ของมาร์เกตแคปหุ้นเข้าใหม่

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตยังมีแผนให้เป็นตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดทุนหลักที่เชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งทาง ตลท.อยู่ในระหว่างดำเนินการเชิญชวนบริษัทในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจดทะเบียน

นอกจากนี้ ยังให้ ตลท.เป็นแกนกลางในการพบกันของผู้ประกอบการสตาร์ทอัป และผู้ลงทุน โดยจะมีแพลตฟอร์มกลางที่รวมกองทุน ผู้ลงทุน ธนาคาร และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งตลาดหลักทรัพย์มีส่วนสร้างผู้ประกอบการสตาร์ตอัป และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกว่า 100 ราย รวมทั้งผู้ประกอบการที่กระจายอยู่ทั่วประเทศที่ยังเข้าไปถึงแหล่งเงินทุนมาเจอกับผู้ลงทุน และหากสตาร์ทอัปเติบโตก็จะผลักดันให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

“ผมได้เน้นย้ำให้ ก.ล.ต.และ ตลท.เน้นเรื่องคุณภาพบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แทนตลาดหุ้นที่เน้นเชิงปริมาณของ บจ. พร้อมทั้งออกมาตรการเข้มงวดในการควบคุม และเพิ่มบทลงโทษ บจ.ที่ไม่มีธรรมาภิบาล และควรหามาตรการสนับสนุน บจ.ที่มีธรรมภิบาลดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน และให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดยหลังจากนี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะมีมาตรการดูแลที่เข้มงวดขึ้น หากบริษัทใดที่มีการบริหารไม่ดี ตลท. และ ก.ล.ต.จะมีบทลงโทษออกมา ขณะเดียวกัน ทาง ตลท.จะจัดงานเพื่อชูตลาดทุนไทยต่อสายตานักลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนกลุ่มอื่นในเร็วๆ นี้”

ขณะที่ในส่วนของตลาดทุนพบว่า ผลประกอบการ บจ.ในปี 2559 กว่า 600 บริษัท มีกำไรสุทธิโตสูงถึง 26.5% จากปี 2558 ที่โตจากปี 2557 เพียง 1% เท่านั้น จึงถือว่าเป็นการจัมป์สตาร์ทที่เร็วมาก โดยยอดขายเกือบทุกอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นทุกตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น