xs
xsm
sm
md
lg

ITEL ลั่นปี 60 โตไม่ต่ำกว่า 30%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม กำไรสุทธิโต 119% อยู่ที่ 67.24 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมโต 85% อยู่ที่ 809 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้หลักจากงานบริการโครงข่ายโต 44% หลังจากรุกพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นที่ 75 จังหวัด จากปี 2558 ขณะรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายโต 175% และรายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซนเตอร์ โต 121% และมั่นใจทุกธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่อง หนุนเป้ารายได้ทั้งปีที่วางไว้โตอีกไม่ต่ำกว่า 30%

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL เปิดเผยถึงผลงานปี 2559 รายได้รวมอยู่ที่ 809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากปี 2558 อยู่ที่ 437 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากงานบริการโครงข่ายซึ่งถือเป็นรายได้หลักทั้งปี เติบโตสูงขึ้น 44% อยู่ที่ 398 ล้านบาท จากปี 2558 อยู่ที่ 276 ล้านบาท และรายได้ดังกล่าวในไตรมาส 4/2559 เติบโตสูงถึง 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นที่ให้บริการเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 75 จังหวัด จากปี 2558 ที่มีอยู่เพียง 49 จังหวัด ทำให้สามารถผลักดันยอดขายจากลูกค้าที่เข้ามาใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทยังสามารถรักษาฐานลูกค้าในปีก่อนไว้ได้ ทำให้รายได้ในแต่ละไตรมาสมีลักษณะที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายในปี 2559 เติบโตสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 175% หรืออยู่ที่ 344 ล้านบาท จากปี 2558 อยู่ที่ 125 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับมอบหมายโครงการสำคัญได้แก่ งานให้บริการก่อสร้าง และปรับปรุงโครงข่ายสัญญาณโทรคมนาคมของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตภาครัฐ

ขณะที่รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซนเตอร์ทั้งปี เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 121% เนื่องจากฐานลูกค้าที่ใช้งานปี 2558 มีเพียง 25% ขณะที่ปี 2559 มีมากถึง 95% ทำให้รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซนเตอร์ในปี 2559 อยู่ที่ 64 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าอยู่ที่เพียง 29 ล้านบาท และในแต่ละไตรมาสหลังจากนี้จะมีแนวโน้มของรายได้ที่มั่นคง

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในปีนี้เติบโตขึ้นกว่าปีก่อนอย่างมาก โดยกำไรทั้งปีโต 119% อยู่ที่ 67.24 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับปี 2558 อยู่ที่ 30.67 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ทุกประเภท นอกจากนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2558 คิดเป็น 18.38% เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ และการควบคุมต้นทุนการให้บริการ ค่าใช้จ่ายในการบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร แม้ในไตรมาส 4/59 มีรายจ่ายทางด้าน IPO ที่เพิ่มเข้ามาแต่ในภาพรวม บริษัทฯ ก็ยังสามารถควบคุมได้

สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2560 และในอนาคต มองว่าธุรกิจ Data Service ของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่ดี จากความครอบคลุมของโครงข่ายถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทฯ สามารถพิสูจน์ตนเองจนสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้าได้ ทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น ดังนั้น รายได้จะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณการใช้งานของลูกค้าเช่าวงจร ซึ่งบริษัทฯ เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม และบริษัทเอกชนทั่วไป โดยปัจจุบันได้เพิ่มทีมงานทางด้านการขายเพื่อรองรับกับโอกาสทางการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และรองรับการใช้งานจากประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับธุรกิจ Data Center คาดว่ารายได้จะเติบโตจากปี 59 เนื่องจากบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเข้ามาใช้งานเพิ่มเติม และจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีนี้ อีกทั้งบริษัทยังคาดหวังรายได้จากการร่วมทุนสร้าง Data Center แห่งใหม่ ที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ในรูปแบ่งส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าอีกด้วย

ส่วนธุรกิจติดตั้งโครงข่าย บริษัทฯ จะยังคงบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการรับงานติดตั้งโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ และลูกค้ามีความมั่นใจในบริการของบริษัทอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม จากการบริหารจัดการที่ดี และการรุกการให้บริการในทุกธุรกิจ สนับสนุนให้ผลงานปีนี้มีการเติบโตสูงขึ้นตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีสัญญาในมือ (Backlog) อยู่แล้วทั้งสิ้น 1,133 ล้านบาท เป็นงานบริการโครงข่าย 802 ล้านบาท งานให้บริการติดตั้งโครงข่าย 183 ล้านบาท และงานให้บริการพื้นที่ดาต้าเซนเตอร์ 148 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายทั้งปี 2560 ที่วางไว้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน ขณะที่ให้ความสำคัญกับอัตรากำไรสุทธิที่ดีมากขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่วางไว้ และการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น