แสนสิริ แจงผลประกอบการปี 59 ระบุมียอดขายกว่า 31,139 ล้านบาท เติบโต 10% มีรายได้รวม 34,395 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,380 ล้านบาท เผยอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ดีขึ้นเป็น 9.8% และปลายปี 2560 จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส เป็นครั้งแรกเผยแผนเดือน มี.ค. เตรียมเปิดตัว “98 Wireless” มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,700 ล้านบาท บนทำเลที่พักอาศัยระดับเอ็กซ์คลูซีฟ บนถนนวิทยุอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มี.ค.นี้
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริ ในปี 2559 ที่ผ่านมา นับว่าบริษัทประสบความสำเร็จมีผลประกอบการที่โดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 ซึ่งบริษัทสามารถทำกำไรได้ถึง 1,600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งมีกำไร 600 ล้านบาท สูงถึง 167% นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้รวม 11,700 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 72% จากช่วงไตรมาสก่อนที่มีรายได้ 6,784 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการรวมปี 2559 บริษัทมียอดขายกว่า 31,139 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 28,512 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้รวม 34,395 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อาทิ โครงการ เดอะ เบส เซ็นทรัล-พัทยา ซึ่งมียอดโอนไปแล้วถึง 95%, โครงการคอนโดมิเนียม The XXXIX (เดอะ เทอร์ทีไนน์) ซึ่งสามารถปิดการโอนได้เต็ม 100% อย่างรวดเร็ว โครงการคอนโดมิเนียม เอดจ์ สุขุมวิท 23 (EDGE Sukhumvit 23) ซึ่งทยอยโอนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
“ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,380 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่สะท้อนถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทยังสามารถลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อยอดขายลงเหลือ 16.9% ของรายได้ รวมถึงสามารถเพิ่มยอดโอน และเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ในปี 59 ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาเป็น 9.8% จากปีก่อนที่มีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้ประมาณ 9.1%”
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2560 บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส เป็นครั้งแรก จากที่เริ่มทยอยโอน เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 ไปแล้วถึง 80%
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมโอนโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งนับเป็นเดอะ ไลน์ โครงการแรกภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ที่เปิดการขาย มูลค่าประมาณ 5,700 ล้านบาท ในเดือนกันยายน 2560 อีกด้วย
สำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกหลังจากนี้ บริษัทได้เตรียม Grand Opening อีกหนึ่งโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส คือ โครงการ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ แบบ Global launch เต็มรูปแบบใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน ในวันที่ 11-12 มีนาคม รวมทั้งเตรียมเปิดตัว โครงการ “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟลกชิปคอนโดมิเนียมที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,700 ล้านบาท บนทำเลที่พักอาศัยระดับเอ็กซ์คลูซีฟบนถนนวิทยุ อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มีนาคมนี้.