xs
xsm
sm
md
lg

“LHFund” ประเมินหุ้นไทยปี 60 ดีต่อเนื่อง แตะ 1,600-1,650 จุด จาก ฐาน GDP คาดโตกว่า 3%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFund
LHFund ชี้การลงทุนในหุ้นยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าการลงทุนในตราสารประเภทอื่นๆ พร้อมประเมินแนวโน้มหุ้นไทยปี 60 มีโอกาสปรับขึ้นแตะ 1,600-1,650 จุด จาก GDP ที่คาดว่า เติบโตกว่า 3% รับปัจจัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐหนุนความเชื่อมั่น ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาจทำให้ตลาดเงิน และตลาดทุนผันผวน แต่เชื่อในระยะยาวยังปรับขึ้น และมีโอกาสทำ New High ด้านผู้บริหารเผยรุกเปิดตัวกองทุนใหม่ LHSTRATEGY เสนอขาย IPO วันที่ 1-7 มี.ค.60 เน้นลงทุนหุ้นไทยที่มีความผันผวนต่ำ และ/หรือจ่ายปันผลสูง ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ และตลาด เอ็ม เอ ไอ

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFund เปิดเผยว่า ได้ประเมินว่าการลงทุนในตราสารทุน (หุ้น) ในปีนี้ยังคงให้โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในตราสารประเภทอื่นๆ แต่จะต้องใช้ความรอบคอบระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากในปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นสูงถึง 19% โดยคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปี 2560 มีโอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,600-1,650 จุด จากสิ้นปีก่อน ที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,542.94 จุด

สำหรับปัจจัยภายในประเทศที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ เช่น การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่จะขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยประเมิน GDP ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 3% จากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของรัฐบาลที่ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ และการลงทุน ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศ IMF คาดการณ์ว่า GDP ของโลก ปรับเพิ่มเป็น 3.40% จาก 3.10% ของปีก่อนหน้า (ข้อมูลจาก IMF มกราคม 2560)

ส่วนแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน และตลาดทุนทั่วโลกนั้น LHFund วิเคราะห์ในระยะยาวมีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำ New High ในอนาคต แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ จากแนวโน้มดังกล่าว LHFund จึงเปิดตัวกองทุนใหม่ คือ แอล เอช สแทรทิจี อิควิตี้ (LHSTRATEGY) วงเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 1-7 มีนาคม 2560 โดยไม่กำหนดมูลค่าการซื้อขั้นต่ำในครั้งแรก และครั้งถัดไป และจะกำหนดวันเริ่มรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนภายใน 15 วันทำการนับจากวันที่จดทะเบียนกองทุนรวม ซึ่งจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเลือกรับผลประโยชน์ได้ทั้งชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ชนิดสะสมมูลค่า และชนิดจ่ายเงินปันผลที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง

อย่างไรก็ดี กองทุนดังกล่าวมีนโยบายเข้าลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เน้นหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ เพื่อลดความผันผวนโดยรวมของกองทุนให้อยู่ในระดับต่ำ เช่น ลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนด้านราคาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ, หุ้นที่มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูง หรือหุ้นที่มีอัตราเติบโตของการจ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้น

“ปีนี้ LHFund มีแผนเปิดตัวกองทุนใหม่อีกหลายกองทุน โดยการเปิดตัวกองทุน LHSTRATEGY ถือเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยอาจมีความผันผวนเกิดขึ้น แต่เชื่อว่ายังมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นไปเกินกว่าระดับ 1,600 จุดได้ เนื่องจากพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังมีแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศในแถบอาเซียน”
กำลังโหลดความคิดเห็น