xs
xsm
sm
md
lg

รายได้โฆษณาลดฉุด “แกรมมี่” ขาดทุนสุทธิ 520 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ขาดทุนสุทธิปี 59 กว่า 520 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุน 1,145 ล้านบาท หรือลดลงกว่า 54% บอร์ดบริหารประกาศงดจ่ายเงินปันผล พร้อมคาดการณ์ปี 60 อุตสาหกรรมโฆษณา และดิจิตอลทีวีส่งสัญญาณฟื้นตัว

นางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 520.15 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.63 บาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,145.48 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.40 บาท หรือขาดทุนสุทธิลดลง 625.33 ล้านบาท คิดเป็น 54.59%

โดยในปี 59 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า การให้บริการ และค่าลิขสิทธิ์รวม 7,295 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.2 จากปีก่อน จากผลกระทบไตรมาส 4 ขณะที่รายได้อื่นๆ ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งมีกำไรจากการขายเงินลงทุน และการปรับโครงสร้างในบริษัทย่อย ขณะที่ด้านค่าใช้จ่าย บริษัทฯ ได้ใช้ความพยายามในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร ทำให้ลดลงจากปีก่อนได้กว่า 666 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการตั้งสำรองค่าสินค้ารับคืน มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท เพื่อรองรับการรับคืนสินค้าที่อาจจะเกิดขึ้นในช่องทางต่างๆ และมีรายการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทจีทีเอช ซึ่งอยู่ระหว่างการดำนินการเตรียมปิดบริษัท มูลค่า 38 ล้านบาท รวมทั้งมีภาระดอกเบี้ยที่เกิดจากการบันทึกมูลค่าปัจจุบันของต้นทุนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ประกอบธุรกิจดิจิตอลทีวี ให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชี ทำให้บริษัทฯ มีการรับรู้ผลขาดทุนจากรายการดังกล่าวในปีนี้ 76 ล้านบาท

สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมโฆษณา และดิจิตอลทีวี ปี 60 คาดว่าจะมีสัญญาณฟื้นตัว และลูกค้าทยอยกลับมาใช้โฆษณา โดยแนวโน้มปีนี้มีปัจจัยบวกจากการใช้ระบบวัดเรตติ้งใหม่ ที่จะสะท้อนผลงานของผู้ประกอบการดิจิทัลทีวีได้ใกล้เคียงกับความจริงมากขึ้น ร่วมกับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านมาตรการให้ขยายเวลาจ่ายค่าใบอนุญาตดิจิทัลทีวี พร้อมอุดหนุนค่าใช้จ่ายส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามกฎมัสต์แครี่ รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรม และการผ่อนคลายของสถานการณ์บ้านเมืองรองรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ส่งผลให้มูลค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของภาคการบริโภค และภาคธุรกิจ คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะพลิกฟื้น ซึ่งกลุ่มช่องดิจิตอลทีวีช่องใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำท็อปไฟว์ และกลุ่มที่มีจุดแข็งในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ถือเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองจากการสร้างสรรค์แข่งกันนาเสนอเนื้อหารายการที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมายมากกว่าสื่อในรูปแบบเดิมๆ อันจะส่งผลให้เกิดเรตติ้ง และเม็ดเงินโฆษณากลับเข้ามามากขึ้น และภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ได้อนุมัติให้งดจ่ายเงินปันผล โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายน 2560 กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม 15 มีนาคม 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น